ได้รับความสนใจอย่างมาก สำหรับ Tesla Cybertruck รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ล่าสุดได้มาเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ณ Tesla Center รามคำแหง บอกลเยว่าดีไซด์เก๋ และแปลกตาอย่างมาก แต่รับประกันเรื่องขุมพลัง และสมรรถนะที่ขั้นสุด โดย Tesla Cybertruck เวอร์ชั่นที่นำเข้ามาโชว์ในไทยครั้งนี้ เป็นรุ่น AWD ซึ่งเป็นรุ่นกลาง ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ให้กำลัง 600 แรงม้า แรงบิด 10,800 นิวตันเมตร ที่ให้อัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กม./ชม. มาพร้อมกำลังลากจูง 4,990 กก.
นอกจากนี้ยังมีแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 123 kWH ชาร์จไฟวิ่งได้ระบะทาง 547 กม. รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 250 kw ชาร์จ ไฟ15 นาที ได้ระยะทาง 235 กม.
ส่วนดีไซด์กะบะด้านหลัง มีความกว้างเตียงขนาดใหญ่ แล้วยังมีพื้นที่มากกว่าในกระโปรงหน้ารถ บนหลังคา และใน GEAR LOCKER ที่ซ่อนไว้ สมารถบรรทุกสัมภาระได้อย่างเต็มที่ ด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,134 กก. และพื้นที่เก็บของแบบล็อกได้ 1,897 ลิตร นอกจากนี้ยังสามารถล็อกปิดไว้เพื่อความอุ่นใจ ใต้ฝาครอบกระบะนิรภัย เบาะนั่งแถวที่สองพับเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของอีก 1,530 ลิตร
ดีไซด์ภายในสะดวกสบายดื่มด่ำไปกับห้องโดยสารกว้างขวางและทันสมัย ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านเทคโนโลยีและความบันเทิงที่ล้ำยุคที่สุด มีโหมดป้องกันอาวุธชีวภาพ แผ่นกรอง HEPA เกรดโรงพยาบาลในตัว ให้การปกป้องจากอนุภาคในอากาศได้ถึง 99.97%มีโรงหนังติดล้อ หน้าจอสัมผัสแบบอินฟินิตี้ (หน้าจอสัมผัสไร้ขอบ) ขนาดใหญ่ 18.5” ที่ด้านหน้า และขนาด 9.4” ที่ด้านหลัง พร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ใหม่ทั้งหมด
สามารถ ชาร์จโทรศัพท์ แล็ปท็อป หรือเครื่องมือต่าง ๆ ของคุณได้อย่างรวดเร็วจากที่นั่งด้านหน้า เบาะหลัง หรือเตียงด้วยการชาร์จแบบไร้สาย ด้วย เต้ารับไฟฟ้า USB-C ขนาด 65W และ 120V/240V ขยายมุมมองด้วย พื้นที่เหลือเฟือสำหรับผู้ใหญ่ 5 คน พร้อมมุมมองจากห้องโดยสารที่กว้างขวางผ่านหลังคากระจกรอบด้าน
สำหรับ Cybertruck เปิดตัวออกมาเมื่อปลายปี 2023 โดยจะมีให้เลือกถึง 3 รุ่น ได้แก่ Rear-Wheel Drive, All-Wheel Drive และ ิ ชาร์จไฟวิ่งได้ไกลสุด 756 กม. และยังมีการราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ เริ่มที่ 60,990 ดอลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.2 ล้านบาท
แต่การที่มาเปิดตัวที่ไทย ณ Tesla Center รามคำแหง เป็นเพียงการโชว์ตัวเท่านั้น แต่ยังไม่มีการแผนวางจำหน่ายในขณะนี้ พร้อมกับเผยว่าเวอร์ชั่นพวงมาลัยขวานั้นอาจจะต้องรอนานอีกถึงราว ๆ 2 ปีเลยทีเดียว งานนี้ใครที่สนใจ ก็คงต้องรอกันอีกยาวๆเลย
