
แผ่นดินไหวทำรถยนต์เสียหาย เคลมประกันได้หรือไม่?
ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหลายประเภท รวมถึงรถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินสำคัญของหลายครอบครัว
หลายคนอาจสงสัยว่า หากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว จะสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ในกรณีแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวทำรถยนต์เสียหายได้อย่างไร?
แผ่นดินไหวสามารถสร้างความเสียหายต่อรถยนต์ได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะในกรณีที่มีความรุนแรงระดับปานกลางถึงมาก ซึ้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์มีดังนี้:
- สิ่งของหล่นทับ: อาคาร ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หรือป้ายโฆษณาอาจพังถล่มลงมาทับรถยนต์
- พื้นถนนแยกหรือทรุด: พื้นผิวถนนอาจแตกร้าวหรือยุบตัว ส่งผลให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย
- แผ่นดินสไลด์: ในพื้นที่ภูเขาหรือเนินสูง อาจเกิดดินถล่ม ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายหรือถูกฝังกลบ
- น้ำท่วมอันเนื่องมาจากแผ่นดินไหว: บางครั้งแผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิหรือเขื่อนแตก ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
- ชิ้นส่วนภายในรถเสียหาย: การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาจทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนกลไกบางอย่างของรถเสียหายได้
แผ่นดินไหวสามารถทำให้รถเสียหายได้จริง โดยความเสียหายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ตำแหน่งที่จอดหรือขับขี่รถในขณะเกิดเหตุ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ทำให้การมีประกันภัยที่คุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
ประกันรถยนต์ชั้นไหนคุ้มครองแผ่นดินไหว?
การคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหวจะขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ และเงื่อนไขความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 1
โดยทั่วไป ประกันรถยนต์ชั้น 1 มักจะคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ซึ่งรวมถึงแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ชัดเจน
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+
โดยทั่วไปไม่คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ แต่บางแผนประกันก็มีความคุ้มครองจากแผ่นดินไหว หรือภัยธรรมชาติให้เลือกซื้อเพิ่มเติม
ประกันรถยนต์ชั้น 2 และชั้น 3
ไม่คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ จากแผ่นดินไหว
หากรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้:
1. ตรวจสอบกรมธรรม์
ตรวจสอบว่ากรมธรรม์ของคุณคุ้มครองความเสียหายจากแผ่นดินไหวหรือไม่
2. ถ่ายรูปความเสียหาย
บันทึกภาพความเสียหายของรถยนต์จากทุกมุม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลม
3. ติดต่อเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน
ติดต่อบริษัทประกันโดยเร็วที่สุด เพื่อแจ้งเหตุและเริ่มกระบวนการเคลม บางบริษัทอาจมีระยะเวลาจำกัดในการแจ้งเคลม
4. รวบรวมเอกสาร
เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น สำเนากรมธรรม์, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาใบขับขี่, สำเนาเล่มทะเบียนรถ, และรูปถ่ายความเสียหาย
5. นำรถเข้าตรวจสอบ
นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์ซ่อมที่บริษัทประกันกำหนด หรือให้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาตรวจสอบความเสียหาย
6. รอการพิจารณาอนุมัติ
บริษัทประกันจะพิจารณาและแจ้งผลการอนุมัติการซ่อมหรือค่าสินไหมทดแทน
รถเสียหายจากแผ่นดินไหว ทำไงดี?
หากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว เช่น มีกำแพงหรือป้ายโฆษณาล้มทับ หรือมีเศษวัสดุหล่นใส่รถ ผู้เอาประกันภัยสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ สิ่งสำคัญคือ ผู้เอาประกันภัยควรตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ของตนเองให้ชัดเจน หากไม่แน่ใจสามารถสอบถามไปยังบริษัทประกันภัยหรือตัวแทนที่ดูแลกรมธรรม์โดยตรง
นอกจากนี้ ผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ควรรีบแจ้งความเสียหายแก่บริษัทประกันภัยทันที เพื่อประโยชน์ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็ควรศึกษาเงื่อนไขประกันภัยที่ทำไว้อย่างรอบคอบ หากเป็นไปได้ควรเลือกประกันภัยชั้น 1 ที่ให้ความครอบคลุมสูงสุด แต่หากมีความกังวลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติโดยเฉพาะแผ่นดินไหว อาจซื้อเป็นความคุ้มครองเพิ่มเติมนอกเหนือจากประกันภัยที่ทำเอาไว้ได้