
ไขข้อสงสัย! รถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกันจะคุ้มครองมั๊ย!
ประกันคุ้มครองกรณีอะไรที่นอกเหนือจากอุบัติเหตุ
โดยปกติแล้วประกันรถจะสามารถคุ้มครองด้าน อุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นมีคู่กรณ๊ หรือบางประเภทจะครอบคลุมทั้งหมด แต่จะพิจารณาถึงต้นตอของเหตุการณ์เป็นหลัก ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ที่มีผลต่อการเคลมประกันอย่างแน่นอนคือ
1. สงคราม (War): หากเหตุการณ์ปะทะถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ภาวะสงคราม" ระหว่างประเทศ นี่คือข้อยกเว้นมาตรฐานในกรมธรรม์ทุกฉบับ ประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นความเสี่ยงภัยระดับมหภาคที่บริษัทประกันไม่สามารถรับไว้ได้
2. การก่อการร้าย (Terrorism): หากเหตุการณ์ถูกระบุว่าเป็นการก่อการร้าย ที่มุ่งหวังผลทางการเมือง ศาสนา หรือสร้างความหวาดกลัวให้แก่สาธารณชน ก็จะเข้าข่าย ข้อยกเว้นมาตรฐานเช่นกัน ประกันส่วนใหญ่จะไม่คุ้มครอง เว้นแต่คุณจะซื้อความคุ้มครองภัยก่อการร้ายเพิ่มเติม ซึ่งมักจะมีวงเงินจำกัด
3. ความไม่สงบ/การปะทะตามแนวชายแดน (Civil Unrest/Border Clash): นี่คือกรณีที่เป็นความหวัง! หากเหตุการณ์เป็นเพียง "การปะทะกัน" หรือ "ความไม่สงบ" ที่ไม่ถูกยกระดับเป็นสงครามเต็มรูปแบบ การตีความจะเปลี่ยนไป และโอกาสในการเคลมประกันจะเปิดกว้างขึ้นอย่างมาก
ประกันแบบไหนที่สามารถคุ้มครองได้
จากกรณีดังกล่าวจะมีปะรกันเพียงแค่แบบเดียวที่สามารถคุ้มครอบงคือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่มีโอกาสจะซ่อมให้เราได้มากที่สุดเพราะ
- ประกันภัยชั้น 1: จุดเด่นของประกันชั้น 1 คือการให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์แบบ "ไม่มีคู่กรณี" หรือความเสียหายจาก "ปัจจัยภายนอก" ซึ่งการที่รถถูกลูกหลงจากเหตุปะทะ สามารถตีความได้ว่าเป็นความเสียหายจากปัจจัยภายนอกที่ผู้เอาประกันไม่ได้ก่อขึ้น ดังนั้น หากเหตุการณ์ไม่เข้าข้อยกเว้นเรื่องสงครามหรือการก่อการร้าย ผู้ที่ทำประกันชั้น 1 จะมีสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
- ประกันภัยชั้น 2+, 3+ และ 3: สำหรับประกันประเภทอื่นๆ นั้น ไม่ให้ความคุ้มครองในกรณีนี้ เนื่องจากความคุ้มครองจะเน้นไปที่อุบัติเหตุแบบ "รถชนรถ" (สำหรับ 2+ และ 3+) หรือคุ้มครองเฉพาะความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (สำหรับชั้น 3) เท่านั้น
สรุป เมื่อรถยนต์ที่เสียหายจากเหตุปะทะตามแนวชายแดน มีโอกาสเคลมประกันได้ หากคุณทำประกันชั้น 1 และเหตุการณ์นั้นไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็น "สงคราม" หรือ "การก่อการร้าย" แต่จะถูกจัดว่าเป็น "ความไม่สงบ" ซึ่งเข้าข่ายความเสียหายจากปัจจัยภายนอกที่ประกันชั้น 1 คุ้มครอง แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การเข้าใจเงื่อนไขกรมธรรม์ของตนเองอย่างถ่องแท้ คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับทรัพย์สินของคุณในยามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และสามารถซ่อมหรือขอคืนทุนเพื่อความเหมาะสม