
ใช้รถควรรู้! น้ำยาหม้อน้ำสีชมพูกับสีเขียว ต่างกันอย่างไร?
คุณสมบัติสำคัญของการเติมน้ำยาหม้อน้ำ คือ
ก่อนจะไปพูดถึงความแตกต่างของสีสันที่บรรจุอยู่ในน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) อยากพูดถึงคุณสมบัติสำคัญกันสักนิดครับเพื่อให้ทุกคนเข้าใจเหตุผลว่าทำไมจึงต้องมีการเติมน้ำยาดังกล่าวอยู่ตลอด หน้าที่ของน้ำยาหม้อน้ำ ประกอบไปด้วย
- เพิ่มระดับจุดเดือดของน้ำเพื่อให้ความร้อนภายในเครื่องยนต์ระบายออกได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงการเกิดอาการเครื่องร้อนจัด
- ควบคุม ถ่ายเท และช่วยระบายอุณหภูมิออกจากระบบหล่อเย็น ไม่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดเช่นกันครับ
- ช่วยรักษาสภาพความเป็นกรด-ด่างภายในหม้อน้ำ
- ลดการเกิดปัญหาหม้อน้ำอุดตันบริเวณรังผึ้งจากการเกิดตะกอน
- ไม่ก่อให้เกิดสนิมขึ้นกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ รวมถึงลดโอกาสเกิดการกัดกร่อนภายในระบบหล่อเย็นซึ่งเต็มไปด้วยอะไหล่หลายตัวทั้งทำจากโลหะและไม่ใช่โลหะ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ ปั๊มน้ำ เสื้อสูบ เทอร์โมสตัท หม้อน้ำ ซีลปั๊มน้ำ เป็นต้น
สีของน้ำยาหม้อน้ำต่างกันอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สีของน้ำยาหม้อน้ำ ไม่ได้มีมาตรฐานสากล หมายความว่าน้ำยาสีเขียวจากยี่ห้อหนึ่ง อาจมีคุณสมบัติไม่เหมือนกับน้ำยาสีเขียวของอีกยี่ห้อก็ได้ สีเป็นเพียงสิ่งที่ผู้ผลิตใส่เข้ามาเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็นรอยรั่วซึมและเพื่อแยกประเภทผลิตภัณฑ์ของตนเอง แต่ความแตกต่างที่แท้จริง อยู่ที่สูตร หรือ เทคโนโลยี ของสารป้องกันการกัดกร่อน ซึ่งแบ่งได้ 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1. IAT (Inorganic Additive Technology) - สูตรดั้งเดิม
- สีที่พบบ่อย: สีเขียว
- อายุการใช้งาน: สั้นที่สุด ประมาณ 2 ปี หรือทุกๆ 40,000 - 50,000 กิโลเมตร
- เหมาะกับรถ: รถยนต์รุ่นเก่า (โดยเฉพาะรถก่อนช่วงปี 2000) ที่มีหม้อน้ำและชิ้นส่วนในระบบหล่อเย็นเป็นเหล็กหรือทองแดงเป็นหลัก
2. OAT (Organic Acid Technology) - สูตรใหม่ ยืดอายุการใช้งาน
- สีที่พบบ่อย: สีส้ม, สีแดง (บางครั้งอาจเป็นสีอื่น)
- อายุการใช้งาน: ยาวนานมาก ประมาณ 5 ปี หรือทุกๆ 150,000 - 200,000 กิโลเมตร
- เหมาะกับรถ: รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้หม้อน้ำและชิ้นส่วนที่เป็นอะลูมิเนียม
3. HOAT (Hybrid Organic Acid Technology) - สูตรไฮบริด
สีที่พบบ่อย: สีชมพู, สีฟ้า, สีเหลือง (มักเป็นสีเฉพาะของค่ายรถ)
อายุการใช้งาน: ยาวนานมาก เหมือนกับ OAT
เหมาะกับรถ: รถยนต์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน สูตรนี้เป็นการผสมผสานข้อดีของ IAT และ OAT เข้าด้วยกันเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุดสำหรับวัสดุหลายชนิดในระบบหล่อเย็น
- สีชมพู: มักเป็นสูตรเฉพาะของ Toyota, Lexus
- สีฟ้า: มักเป็นสูตรเฉพาะของ Honda, Nissan
น้ำยาหม้อน้ำสีชมพูกับสีเขียว แตกต่างกันหรือไม่
เมื่อเข้าใจคุณสมบัติกันไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงเรื่องที่หลายคนสงสัยกันเยอะมากนะครับว่าสรุปแล้ว น้ำยาหม้อน้ำสีชมพูกับสีเขียวแตกต่างกันหรือไม่? คำตอบคือ ไม่มีความแตกต่างใด ๆ กันเลยครับ ด้วยส่วนผสมหลักทั้งหมดของน้ำยาหล่อเย็นเป็นสูตรเดียวกันแทบจะเป๊ะเลยด้วยซ้ำ
ส่วนเหตุผลที่สีสันแตกต่างกันเกิดจากการผสมสีลงไปเพื่อให้สังเกตเห็นจุดรั่วซึม รอยรั่วต่าง ๆ ภายในห้องเครื่องได้ชัดเจน แถมทั้ง 2 สียังสามารถเติมผสมกันได้อีกต่างหาก แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยทำกันครับเพราะเวลาเปลี่ยนถ่ายก็ต้องเอาน้ำยาของเก่าออกจนหมดเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานดีที่สุด
เมื่อเข้าใจความแตกต่างของสีสันกันไปแล้วทุกคนคงสบายใจขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดี ๆ อยู่ขอแนะนำน้ำยาหม้อน้ำ ซุปเปอร์ คูลแลนท์ ออร์แกนิค เทคโนโลยี มี 2 สีคือ สีชมพูและสีเขียว ให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ใช้รถ ซึ่งสีที่แตกต่างกันไม่มีผลใด ๆ ต่อส่วนประกอบหรือคุณสมบัติของน้ำยาหล่อเย็น จึงสามารถใช้ทดแทนกันได้โดยไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์แน่นอนครับ