เผยเคล็ดลับ! เช็กประวัติทะเบียนรถมือสองง่ายๆ แค่เปิดเล่มหน้า 18
หากใครอยากเช็กประวัติรถยนต์ ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถปลอม โดนชนแล้วหนี ทะเบียนรถหาย รวมไปถึงเช็กประวัติรถยนต์มือสองที่กำลังจะซื้อ สามารถเข้าไปยื่นคำขอทำเรื่องได้ที่ได้ที่กรมขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งทางบกในพื้นที่
แต่ผู้ที่มายื่นเรื่องนั้นจะต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์นั้นๆ ด้วย เช่น เป็นผู้ซื้อ-ขายรถมือสอง เป็นคู่กรณีโดนชนแล้วหนี หรือเป็นบริษัทประกัน เป็นต้น
เล่มคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ หรือ เล่มฟ้า นอกจากจะระบุรายการจดทะเบียน และรายละเอียดของรถแต่ละคันแล้ว หากเปิดไปหน้าที่ 18 จะพบกับ "รายการบันทึกของเจ้าหน้าที่" ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะบันทึกรายละเอียดทุกอย่างที่เจ้าของเดิมเคยทำไว้กับกรมการขนส่งทางบก เช่น
- การโอนกรรมสิทธิ์
- การแจ้งเปลี่ยนเครื่องยนต์
- การแจ้งจอด
- แจ้งเปลี่ยนสี
- การแจ้งย้าย
- การเปลี่ยนหมายเลขทะเบียน
- การระบุชนิดเชื้อเพลิง
- อื่นๆ
เช็กประวัติทะเบียนรถในกรณีไหนได้บ้าง?
1. เช็กทะเบียนรถชนแล้วหนี
เมื่อเราโดนรถชนแล้วหนี หากอยากเช็คทะเบียนรถว่าเป็นของใครก็สามารถตามหาชื่อเจ้าของทะเบียนรถคู่กรณีได้โดยการแจ้งความ หรือลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมแนบหลักฐานที่เกี่ยวข้องเช่น เลขทะเบียนรถ รุ่นรถ ยี่ห้อรถ รวมไปถึงวิดิโอบันทึกเหตุการณ์
2. เช็กทะเบียนรถอายัด
กรณีต้องการตรวจสอบทะเบียนรถถูกอายัด หรือเช็กอายัดทะเบียน เนื่องจากมีการค้างชำระค่าปรับจราจร ป้ายทะเบียนรถยนต์ซีดจาง และอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์หรือต่อภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ สามารถยื่นคำขอเช็กทะเบียนรถพร้อมกับเอกสารซื้อขายรถที่เกี่ยวข้องให้กับสำนักงานขนส่งในพื้นที่ หรือรอตรวจสอบอายัดทะเบียนรถเมื่อมาชำระภาษีรถประจำปี หรือต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าก็ได้เช่นเดียวกัน
3. เช็กทะเบียนรถ กรณีรถหาย
หากรถหายแล้วต้องการเช็กทะเบียนรถ หรือทะเบียนรถถูกอายัดจากการแจ้งความว่ารถถูกขโมย คุณจะไม่สามารถเช็กทะเบียนรถออนไลน์หรือเช็กผ่านแอปพลิเคชันตรวจสอบรถหายได้ เพราะข้อมูลยังไม่อัปเดต แต่สามารถขอเช็กป้ายทะเบียนรถยนต์ที่สำนักงานขนส่งได้เหมือนกับการยื่นขอตรวจสอบประวัติทะเบียนรถทั่วไปได้ โดยนำเอกสารต่าง ๆ สำหรับการขอเช็คประวัติทะเบียนรถไปด้วย
4. เช็กทะเบียนรถปลอม หรือเพื่อความแน่ใจในการซื้อรถมือสอง
เมื่อสงสัยว่ารถยนต์มือสองที่เราซื้อมานั้นโดนสวมทะเบียนหรือไม่ ก็สามารถเช็กป้ายทะเบียนปลอมเบื้องต้นได้โดยการสังเกตได้ที่อักษรย่อนูน ขส ที่มุมด้านล่างขวาว่ามีหรือไม่ ถ้ามีหมายถึงเป็นป้ายทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าหากอยากเช็กประวัติเลขทะเบียนรถหรือประวัติชื่อผู้ครอบครองรถ ก็สามารถยื่นเอกสารคำร้องขอตรวจสอบได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่รถคันนั้นได้เลย
เมื่อเราเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วต้องการยื่นร้องขอดำเนินการ เอกสารที่จะต้องเตรียมไปยื่นกับเจ้าหน้าที่นั้นมีอะไรบ้าง มาดูด้างล่างนี้กันเลย
เอกสารขอเช็คประวัติทะเบียนรถ กรมขนส่ง
- บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
- หนังสือรับรองนิติบุคลตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ (ผู้มีอำนาจต้องเซ็นรับรองด้วย)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจลงนามแทนนิติบุคคล 1 ฉบับ
- หนังสือนำส่งเรื่อง หรือเอกสารของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมาย กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ขอตรวจสอบ 1 ฉบับ
- สำเนาหนังสือแต่งตั้งตัวแทนบริษัทประกันภัย 1 ฉบับ (กรณีมอบให้บริษัทประกันเป็นผู้ตรวจสอบ)
- สำเนาหนังสือแต่งตั้งทนายความ หรือใบอนุญาตทนายความ 1 ฉบับ (กรณีมอบให้ทนายความเป็นผู้ตรวจสอบ)
- สำเนาหมายศาลหรือคำสั่งศาล 1 ฉบับ
- ใบแจ้งความหรือบันทึกประจำวันตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
- เล่มทะเบียนรถตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
- เอกสารการซื้อขายรถตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
- หนังสือการถอนอายัดทะเบียนตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
- หลักฐานการรับรถคืนตัวจริงและสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ
เมื่อทำการยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมในการเช็กทะเบียนรถ เท่าไหร่?
- ค่าคำขอ ฉบับละ 5 บาท
- ค่ารับรองสำเนา แผ่นละ 20 บาท
- ค่าขอค้นเอกสารรถยนต์ ครั้งละ 50 บาท
- ค่าขอค้นเอกสารรถมอเตอร์ไซค์ ครั้งละ 10 บาท
ช่องทางการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับทะเบียนรถ และเช็กประวัติทะเบียนรถ
1.กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 5 (จตุจักร) โทรศัพท์ 0-2271-8888
2.สายด่วนศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทรศัพท์ 1584
3.สายด่วยศูนย์บริการประชาชน สานักปลัดสานักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์ 1111
4.สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วหากคุณกำลังตัดสินใจเลือกซื้อรถคันใหม่ ก็อย่าลืมขอดูเล่มจริง พร้อมกับตรวจรายละเอียดบนหน้า 18 ด้วยนะครับ
ดังนั้น การตัดสินใจเลือกรถมือสองทุกครั้ง ควรตรวจสอบเล่มคู่มือจดทะเบียนฉบับจริงด้วย นอกเหนือจากเอกสารสำเนาเพียงอย่างเดียว และหากผู้ขายไม่มีเล่มทะเบียนมาแสดงให้ดู ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่ารถคันดังกล่าวมีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน อาจเกิดปัญหาในภายหลังได้ เว้นแต่เล่มจะอยู่กับไฟแนนซ์เนื่องจากรถยังผ่อนไม่หมด
หากเล่มจดทะเบียนมีการประทับตราว่า "ออกแทนสูญหาย" หรือ "ออกแทนเล่มที่สูญหาย" ในวงการรถมือสองจะเรียกกันว่าล้างเล่ม ซึ่งบางกรณีอาจเป็นการสูญหายจริง โดยที่ตัวรถไม่ได้มีประวัติด่างพร้อย แต่หลายกรณีก็เป็นการล้างเล่มเพื่อปกปิดข้อมูลการแก้ไขรายการจดทะเบียน ซึ่งกรณีนี้ไฟแนนซ์มักไม่รับจัด หรือแม้แต่เต๊นท์รถมือสองเองก็เลี่ยงที่จะรับซื้อเช่นกัน