เคล็ดลับยานยนต์! เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นหม้อน้ำทุกกี่กิโลเมตร?
เคล็ดลับยานยนต์! เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นหม้อน้ำทุกกี่กิโลเมตร?

เคล็ดลับยานยนต์! เราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็นหม้อน้ำทุกกี่กิโลเมตร?

น้ำยาหล่อเย็น Coolant คืออะไร สำคัญต่อการทำงานของเครื่องยนต์อย่างไร ?
เป็นน้ำยาที่มีการผสมสารเคมีที่มีส่วนสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ โดยน้ำยานี้จะใส่อยู่ในหม้อน้ำรถยนต์ ทำหน้าที่เพิ่มจุดเดือดของน้ำให้สูงขึ้น เพื่อถ่ายเทความร้อนส่วนเกินออกจากเครื่องยนต์ ป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไปจนเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนภายในระบบเครื่องยนต์อีกด้วย ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้นน้ำยาหล่อเย็น ประกอบด้วยส่วนผสมหลักสองอย่างคือ น้ำและสารป้องกันการแข็งตัว ซึ่งมักจะเป็นเอธิลีนไกลคอล หรือ โพรไพลีนไกลคอล สารป้องกันการแข็งตัวนี้มีหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้น้ำในระบบหล่อเย็นแข็งตัวเมื่ออากาศเย็นจัดสำหรับเมืองนอก แต่สำหรับไทย น้ำในหม้อน้ำคงไม่มีวันเย็นจนแข็งอยู่แล้ว แต่ส่วนสำคัญคือสารที่ผสมลงในน้ำยานั้นสามารถเพิ่มจุดเดือดของน้ำได้อีกด้วย ทำให้ช่วยระบายความร้อนสูงจากการเผาไหม้ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ขณะทำงานมีความร้อนสูงเกินไปและสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

น้ำยาหม้อน้ำ และ น้ำยาหล่อเย็น คือตัวเดียวกันไหม ?


น้ำยาหม้อน้ำ และ น้ำยาหล่อเย็น เป็นตัวเดียวกัน ซึ่งสำหรับคนไทยเรานิยมเรียกกันว่าน้ำยาหม้อน้ำ มีหน้าที่ตามชื่อเลยคือ การรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้คงที่และป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน ซึ่งเติมลงไปในหม้อน้ำรถยนต์ได้โดยตรงเลย

น้ำยาหล่อเย็น เปลี่ยนทุกกี่กิโลเมตร?


น้ำยาหล่อเย็นเป็นปัจจัยสำคัญมากในการใช้งานรถยนต์ เพราะน้ำยาหล่อเย็นเป็นส่วนสำคัญในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ หากปล่อยให้น้ำแห้งหรือมีสิ่งสกปรกปนเปื้อน อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูงจัด หรือ โอเวอร์ฮีต และนำไปสู่ความเสียหายของเครื่องยนต์ได้ในที่สุด

เปลี่ยนถ่ายตามระยะทาง: โดยทั่วไปแล้วผู้ผลิตรถยนต์จะแนะนำให้เปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นทุก 40,000 - 160,000 กิโลเมตร

เปลี่ยนถ่ายตามอายุการใช้งาน: น้ำยาหล่อเย็นมีอายุการใช้งานประมาณ 3-10 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ

แม้ว่าน้ำยาหล่อเย็นจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยๆ เหมือนกับน้ำมันเครื่อง แต่เจ้าของรถจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเช็กสภาพน้ำยาหล่อเย็นอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าน้ำยาหล่อเย็นมีลักษณะพร่องไปจากปกติ แม้ว่าจะเติมจนได้ระดับแต่ยังคงพร่องในเวลาอันรวดเร็ว แสดงว่าเกิดการรั่วซึมในระบบ ควรนำรถเข้ารับการตรวจเช็กและซ่อมแซมทันที สาเหตุเริ่มได้ตั้งแต่ข้อต่อรั่ว หม้อพักน้ำรั่ว และหากรุนแรงอาจเกิดจากฝาสูบโก่ง

หากว่าน้ำยาหล่อเย็นมีสนิมปนเปื้อน แสดงว่ามีการเติมน้ำเปล่าหรือน้ำประปา ก่อให้เกิดสนิมในระบบหล่อเย็น หรือหากเปลี่ยนสภาพจนมีลักษณะขุ่น อาจเกิดจากอาการฝาสูบโก่งได้เช่นกัน ควรรีบนำรถเข้ารับการตรวจเช็กและแก้ไขโดยด่วน

ถ้าเราเติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็น รถจะมีปัญหาไหม ?

การเติมน้ำเปล่าแทนน้ำยาหล่อเย็นเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำ เนื่องจากน้ำเปล่าไม่มีคุณสมบัติในการป้องกันการแข็งตัวและการเกิดสนิมเหมือนกับน้ำยาหล่อเย็น และหากเป็นน้ำประปาที่มีสิ่งเจือปน อาจส่งผลร้ายกว่าที่คิดอีกด้วย เพราะภายในน้ำอาจจะมี เศษฝุ่น ผงต่างๆ อยู่ภายใน อย่างไรก็ตาม ยามจำเป็นเราสามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้ ตัวอย่างเหตุจำเป็นเช่น น้ำหม้อน้ำแห้ง และ ไม่สามารถหาน้ำยาหล่อเย็นเติมได้ เราสามารถซื้อน้ำขวด ที่เป็นน้ำกรองมาเติมไปก่อนได้ หลังจากนั้นก็ค่อยไปให้ศูนย์บริการ หรือ ช่างถ่ายน้ำเปล่าออกจากระบบทั้งหมด และเติมน้ำยาหล่อเย็นลงไปภายหลัง ทีนี้เรามาทราบกันว่า หากเติมน้ำเปล่าลงไป และใช้งานอยู่เป็นประจำ จะเกิดผลเสียอะไรบ้าง

1. การเกิดสนิม
น้ำเปล่าไม่มีสารป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมของสนิมและการกัดกร่อนภายในระบบหล่อเย็นและหม้อน้ำ เป็นสาเหตุให้หม้อน้ำรั่วและแห้งได้ ส่งผลให้ระบบหล่อเย็นทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพและอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ หากคุณเคยเปิดฝาหม้อน้ำออกมา และ เห็นมีสนิมติดออกมากับน้ำด้วย ให้คิดไว้ก่อนได้เลยว่า รถคันนี้เติมน้ำเปล่าลงระบบหล่อเย็น

2. ความร้อนขึ้น
น้ำยาหล่อเย็นมีคุณสมบัติในการเพิ่มจุดเดือดของน้ำ ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น น้ำเปล่าไม่มีคุณสมบัตินี้ ทำให้การระบายความร้อนจากเครื่องยนต์อาจไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดความร้อนขึ้น

นอกจากนี้ น้ำเปล่ามีจุดเดือดต่ำกว่าน้ำยาหล่อเย็นมาก ทำให้เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน น้ำเปล่าจะเดือดเร็วกว่า เกิดเป็นไอน้ำและก่อให้เกิดฟองอากาศในระบบ ทำให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้ไม่ดีพอ เครื่องยนต์อาจร้อนจัดจนเสียหายได้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง