ใช้รถควรรู้! สัญญาณเตือนเกียร์อัตโนมัติใกล้เสีย
ใช้รถควรรู้! สัญญาณเตือนเกียร์อัตโนมัติใกล้เสีย

ใช้รถควรรู้! สัญญาณเตือนเกียร์อัตโนมัติใกล้เสีย

แม้ผู้ผลิตบางรายจะบอกว่าน้ำมันเกียร์ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถเกียร์อัตโนมัติที่ไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และกรองเกียร์ มักจะพังหลังวิ่งเกิน 100,000 กิโลเมตร คำแนะนำที่ดีที่สุดคือควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 30,000 - 40,000 กิโลเมตร ควบคู่ไปกับการขับขี่ที่ถนอมเกียร์ ไม่เปลี่ยนเกียร์โดยไม่จำเป็น และไม่ลากรอบสูงบ่อยๆ

สัญญาณเตือนว่าเกียร์อัตโนมัติของคุณใกล้จะพัง

เมื่อเกียร์เริ่มมีปัญหา จะแสดงอาการต่างๆ ออกมา ซึ่งเป็นลางบอกเหตุว่าควรนำรถไปตรวจสอบโดยด่วน อาการที่พบบ่อยมีดังนี้:

  1. เกียร์เปลี่ยนแล้วกระตุก-กระชาก: อาการที่ชัดเจนที่สุดคือจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ไม่นุ่มนวลเหมือนเดิม มีอาการกระตุกหรือกระชาก

  2. เข้าเกียร์แล้วรถไม่ไปทันที: เมื่อใส่เกียร์ D (เดินหน้า) หรือ R (ถอยหลัง) แล้วรถนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเคลื่อนตัว หรือในกรณีที่อาการหนักคือไม่เคลื่อนตัวเลยแม้จะเหยียบคันเร่งแล้ว

  3. เร่งไม่ขึ้น อืดผิดปกติ: เหยียบคันเร่งแล้วรอบเครื่องยนต์พุ่งสูงขึ้น แต่ความเร็วรถไม่เพิ่มตาม หรือเพิ่มขึ้นช้ามากเหมือนไม่มีกำลัง ซึ่งอันตรายมากเวลาต้องการเร่งแซง

  4. เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน: ขับอยู่ดีๆ เกียร์ก็ค้างอยู่ที่ตำแหน่งเดิม ไม่ยอมเปลี่ยนขึ้นหรือลงตามความเร็ว หรือเข้าสู่ "Limp Home Mode" คือวิ่งได้แค่เกียร์เดียว (ส่วนใหญ่มักเป็นเกียร์ 3) เพื่อให้พอขับประคองเข้ารับการซ่อมได้

  5. ปัญหาที่เกียร์ถอยหลัง (R): อาการเริ่มแรกมักจะเกิดกับเกียร์ถอยหลังก่อน โดยเฉพาะตอนเครื่องยังเย็นอยู่ อาจจะเข้าเกียร์ถอยแล้วรถไม่ถอย หรือมีอาการกระตุกอย่างรุนแรง

  6. น้ำมันเกียร์รั่วซึม: สังเกตเห็นรอยหยดของน้ำมันสีแดงๆ หรือสีคล้ำใต้ท้องรถบริเวณตำแหน่งเกียร์

ปัจจัยเสริมในประเทศไทย

ประเทศไทยมีอากาศร้อนตลอดปี ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการทำงานและอายุของเกียร์ ความร้อนสูงทำให้ระบบระบายความร้อนของเกียร์ (ออยเกียร์) ทำงานหนัก และลดประสิทธิภาพของน้ำมันเกียร์ลง ดังนั้น การดูแลบำรุงรักษาเกียร์ในประเทศเขตร้อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวด

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง