Cavallino Motors (คาวาลลิโน มอเตอร์) ผู้นำเข้าเฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการในไทย เผยโฉม Ferrari Roma Spider (เฟอร์รารี่ โรม่า สไปเดอร์) Supercar เปิดประทุน ให้แฟนม้าลำพองชาวไทยได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิดแล้ว เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราสุดคลาสสิคในสไตล์ “La Nuova Dolce Vita” หรือ นิยามใหม่ของชีวิตเหนือระดับ ที่ La Chapelle Bangkok 

ในการเปิดตัว Ferrari Roma Spider มาพร้อมกับเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ชาว Ferrarista ได้ประทับใจ ทั้งสถานที่จัดงานในบรรยากาศสไตล์ยุโรป ที่ผสานความเป็นแฟชั่นและความคลาสสิคไว้ด้วยกันอย่างลงตัว 

ทั้งยังตรงกับนิยามของ Ferrari Roma Spider ในการเป็นผลงานร่วมสมัยที่นำความสูงค่า และการใช้ชีวิตอันเปี่ยมสุข ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของชาวอิตาเลียนยุค 1950 และ 60 มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นนี้ ที่สืบทอดมาจากรุ่น 365 GTS4 เครื่องวางหน้าเปิดประทุนที่ได้ผลิตครั้งสุดท้ายเมื่อ 54 ปีที่แล้วในปี 1969 และสามารถต่อยอดคอนเซ็ปต์ La Nouva Dolce Vita หรือนิยามใหม่ของชีวิตเหนือระดับ ได้อีกครั้ง

สำหรับความพิเศษของ Ferrari Roma Spider ยนตรกรรมเปิดประทุนรุ่นใหม่ ที่มีรูปโฉม สัดส่วน และสเปคเดียวกับแนวคิด “รถยนต์ V8 2+ ที่นั่ง” ของ Ferrari Roma ที่เคยประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยตัวรถถูกออกแบบโดย Ferrari Styling Centre ซึ่งนำทัพโดย Flavio Manzoni พุ่งเป้าไปยังการยกระดับแนวคิด “La Nuova Dolce Vita” ให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น 

ชุดไฟหน้า Full-LED ขอบของกระจังหน้าเชื่อมต่อไปสู่เส้นตรง 2 เส้น มีแถบไฟ DRL แนวนอนลากผ่าน บอกใบ้ถึงโครงสร้างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ตัวถังรถ นี่คือองค์ประกอบที่ให้สัมผัสถึงความดุดันของเส้นสายโดยรอบของรถ โอเวอร์แฮงค์ท้ายรถที่ทอดยาวสไตล์เดียวกับเฟอร์รารี่ในยุค 1950 และ 60

แต่สิ่งที่ทำให้น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า คือหลังคา Soft Top ดีไซน์ที่แปลกใหม่และล้ำสมัยของหลังคา ตอกย้ำบุคลิกอันไร้ที่ติของเฟอร์รารี่ Roma Spider พร้อมออปชั่นหลากหลายให้เลือกปรับแต่งเพื่อความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น ผ้าหลังคาแบบสั่งตัดและการเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีตัดกัน ตลอดจนฟีเจอร์ต่างๆ ออกแบบมาเพื่อให้รถคันนี้มีอรรถประโยชน์สูงสุด 

พร้อมสปอยเลอร์หลังซ่อนตัวอยู่กับฝาท้ายได้อย่างแนบเนียนโดยไม่รบกวนเส้นสายของตัวรถแม้แต่น้อย และด้วยกลไกที่ออกแบบมาพิเศษ ทำให้สามารถยกตัวขึ้นได้ถึง 3 ตำแหน่งแตกต่างกัน คือ แรงต้านต่ำ (Low drag – LD), แรงกดปานกลาง (Medium Downforce – MD) และแรงกดสูง (High Downforce – HD)

มิติตัวรถยาว 4656 มม. กว้าง 1974 มม. สูง 1306 มม. และระยะฐานล้อ 2670 มม.

สำหรับห้องโดยสารของ Ferrari Roma Spider ทีมนักออกแบบของ Ferrari Styling Centre ได้นำวิธีการแบบเดียวกับที่เคยเปิดตัวใน Ferrari Roma มาใช้ ด้วยการแยกพื้นที่ออกเป็นสองส่วนสำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร ตามแนวคิด Dual Cockpit มีการจัดวางที่แทบจะสมมาตรกัน ติดตั้งจอแสดงผลส่วนกลางขนาด 8.4 นิ้ว แบบลอยตัวระหว่าง Cockpit ทั้งสอง รวมเอาระบบ Infotainment และการควบคุมระบบปรับอากาศเข้าไว้ในจอแสดงผลนี้ด้วย พร้อมสวิตช์ควบคุมชุดเกียร์ F1 ติดตั้งอยู่บนแผงโลหะที่ทันสมัย

เบาะหลังที่พับเก็บได้ สำหรับเก็บสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ ตลอดจนการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Wi-Fi ที่รองรับทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay และเบาะนั่งที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ปรับได้ 18 ทิศทาง 

Ferrari Roma Spider มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 3,855 ซีซี ตระกูลเดียวกับที่เคยคว้ารางวัล International Engine of the Year สี่ปีซ้อนมาแล้ว ให้พละกำลังสูงสุด 620 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 760 นิวตัน-เมตร แรงม้าต่อลิตร 161 แรงม้า/ลิตร

ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ DCT 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 320 กม./ชม. ส่วนหลังคา Soft Top สามารถเปิด-ปิดได้ เสร็จสมบูรณ์ในเวลาเพียง 13.5 วินาที และทำงานได้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 60 กม./ชม.

นอกจากนี้ Ferrari Roma Spider ยังมาพร้อมกับขีดสุดแห่งประสิทธิภาพ ทำให้รถคันนี้เป็นคู่สมบูรณ์แบบทั้งการใช้งานในเมืองและการขับขี่ทางไกล พร้อมเสียงคำรามอันกึกก้องของขุมพลังเฟอร์รารี่ V8 ที่ขับขานเป็นซาวด์แทร็คประกอบการขับขี่เฉกเช่นเฟอร์รารี่ทุกรุ่น 

สำหรับ Ferrari Roma Spider มาพร้อม Warranty ฟรี 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และยังสามารถต่ออายุได้ถึง 15 ปี พร้อมทั้งการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดฟรี 5 ปี การดูแลบำรุงรักษาตามระยะทางฟรี 7 ปี รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง โดยบริการจากทีมช่างผู้ชำนาญการด้วยเครื่องมือมาตรฐานจากมาราเนลโล ประเทศอิตาลี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการรักษาประสิทธิภาพและความเป็นเลิศ อันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่

Ferrari Roma Spider ราคาคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราวๆ 24-30 ล้านบาท