Honda Civic 1.8Si ตาโตรุ่น Rare มีในไทยแค่ 1,000 คัน
Honda Civic 1.8Si ตาโตรุ่น Rare มีในไทยแค่ 1,000 คัน

Honda Civic 1.8Si ตาโตรุ่น Rare มีในไทยแค่ 1,000 คัน 

Civic 1.8 Si รุ่นพิเศษส่งท้ายศตววรษที่แล้วของ Honda ผมพยายามคิดหาไอเดียในการเขียนบทความรถวันอาทิตย์เพิ่มเติมเพราะที่ผ่านมาหลายท่านชอบ แต่ทุกท่านบอกว่ายาว อ่านไม่จบ อยากได้อะไรสั้นๆอ่านระหว่างรอกดเครื่องดื่มจากตู้เต่าบินบ้าง ไอ้ผมนั้นชินกับการเขียนในเชิงที่ว่า “รู้อะไร มีอะไร ผมให้หมด” เพราะถ้าวันนึงผมเดินๆไปแล้วหมาชิวาว่าอาจจะวิ่งมากัดผมสิ้นชีพ ความรู้ทุกอย่างในหัวก็ตายไปพร้อมผม ผมเลยคิดว่าอยากกระจายเรื่องราวต่างๆเอาไว้บนโลกใบนี้ให้มันเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง 

มีบางสิ่งที่ผมอยากทำมานานแล้ว ก็คือเอาโบรชัวร์รถเก่าที่มีอยู่เป็นภูเขาในบ้าน มาสแกนแล้วเล่าถึงรถในโบรชัวร์นั้นสั้นๆ ที่ผ่านมาผมเห็นหลายท่านไปเซฟรูปโบรชัวร์มา จะเอาไปใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง แต่บางทีโบรชัวร์ที่เจอบน Google ถูกสแกนเมื่อสมัย iPhone ยังไม่เปิดตัว Resolution เลยต่ำ อ่านตัวอักษรไม่เห็น ทางแก้? ก็ทำเองเลยแล้วคนอื่นจะได้ใช้ด้วยนั่นล่ะครับ แต่ให้ลงแค่ภาพ ผมก็ไม่มีงานทำพอดีสิ

อันว่าหัวเรื่องวันนี้ คือ Honda Civic ตาโตเวอร์ชั่น 4 ประตู บ้านเราชอบเรียกว่า Civic EK ทั้งที่จริงแล้วเวอร์ชั่น 4 ประตูในไทยดันใช้รหัสตัวถังว่า EJ เสียอย่างนั้น ก็แล้วแต่ท่านจะเรียก Civic เจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ขายในบ้านเราตั้งแต่ช่วงผมอยู่มัธยมปลายประมาณปี 1996 โดยเปิดตัวที่ญี่ปุ่นปี 1995 แล้วบ้านเราก็มีการไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนกันชนหน้า/หลัง ไฟหน้า/ไฟท้าย กระโปรงท้ายและรายละเอียดนิดหน่อยในช่วงต้นปี 1999 หลายท่านทราบกันดีอยู่แล้วว่า Civic ตาโต มีเครื่องยนต์สหกรณ์แคมเดียวติดตั้งในรถส่วนใหญ่ที่ขาย ก็คือ D16Y4 1.6 ลิตร 120 แรงม้า และ D16Y8 VTEC 1.6 ลิตร 127 แรงม้า ทว่า มันมีรุ่นพิเศษโผล่มาในช่วงปี 1999 ด้วย คือรุ่น 1.8Si

แล้วมันมีอะไรพิเศษฟระ? บางคนเรียกว่ารุ่น 1.8 สิ (Si) แหมทำเป็นรู้ภาษาอิตาเลียนขึ้นมา..Si นี่มันคือชื่อรุ่นที่ถือว่าค่อนข้างแรง เป็นรองแค่พวกรหัสย่อย SiR หรือ VTi-R เท่านั้นล่ะครับ แต่ Si ในแต่ละประเทศ ก็อาจได้รับเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันแล้วแต่วิธีทำตลาดของแต่ละแห่ง อย่างที่ญี่ปุ่น Si จะเป็นรุ่นแปลก คือมาดรถไม่สปอร์ตเท่ารุ่น Vi-RS ไอ้รุ่นย่อยพาร์ทเทพที่คนเล่นตาโตเจอราคาอะไหล่แท้แล้วร้อง (แต่มันเท่จริงๆนะ) แต่ดันได้เครื่อง 1.6 ที่โตกว่า (Vi-RS ใช้ 1.5) ส่วนที่อเมริกา รุ่น Si ในตัวถังตาโต จะมีแต่บอดี้คูเป้ 2 ประตู และน่าอิจฉาตรงที่ได้เครื่อง B16A DOHC VTEC แต่โดนตอนม้าเหลือ 158-160 ตัว

ส่วนบ้านเรา แหะ แหะ ได้เครื่อง B18B4 มาครับ ซึ่งเครื่องนี้ก็คือเครื่องยนต์ทวินแคม ที่ไม่มีระบบ VTEC บางคนอาจจะบอกว่าท่อนล่างเดียวกับเครื่องยนต์ของ Honda Integra (B18C) ก็เกือบถูก แต่ไม่ใช่ครับ เสื้อสูบทรงสูงเมื่อมองจากภายนอก..อันนี้เหมือน (B16B ก็ใช้เสื้อบล็อกสูงแต่ช่วงชักสั้น) ปากกระบอกสูบ 81 มม. เท่ากัน แต่ระยะชักต่างกันครับ B18C ระยะชัก 87.2 มม. ส่วน B18B ชัก 89.0 มม. ทำให้ความจุกระบอกสูบจริงมากกว่า B18C เล็กน้อย เครื่องบล็อก B ตัวนี้พอขยายปากกระบอกเป็น 85 มม. ก็จะกลายเป็น B20B ตัวที่อยู่ใน Honda CR-V นั่นล่ะครับ อีกส่วนที่ต่างจาก B18C คือด้วยความเป็นเครื่องยนต์ใช้งานทั่วไป มันเลยไม่มีหัว Oil Jet ฉีดน้ำมันเครื่องเลี้ยงใต้ลูกสูบ

Civic 1.8Si สเป็คไทย มีแรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า ซึ่งเป็นที่ซู้ดปากของสาวก Honda สมัยนั้นครับ เพราะว่า Honda Civic ในไทยที่ผ่านมานั้นมีแต่เครื่อง 1.5-1.6 ลิตร คู่แข่งอย่าง Toyota Corolla ก็มี 1.8 ลิตร Mitsubishi Lancer CK ก็มี Mazda นี่ยิ่งตัวมี 1.8 เลยเพราะเล่นมาตั้งแต่ 1991 แล้วในพิกัดรถเล็ก Nissan ไม่มี 1.8 แต่เอารถใหญ่กว่าอย่าง Primera P11 2.0 ลิตรมาขายในราคา Civic ครับ แต่ไม่ว่าหน้าไหนมา เจอตัวเลขม้า 145 ตัวของ Honda นี้ ดูบนกระดาษไม่มีใครสู้ได้ แม้แต่ Primera 2.0 ก็ยังมีแค่ 130 แรงม้า แต่พอเอาไปวิ่งจริง เครื่อง B18B ที่ความจุโตกว่า กลับมีรอบต่ำที่ดูรีๆรอๆแปลกๆครับ คือมันไม่ต่างจาก Civic 1.6 VTEC อย่างที่คุณคิด ยกเว้นว่าลากรอบกันสุดขีดแดง จะรู้สึกได้ว่า 1.8Si ลื่นกว่า 1.6 VTEC

ผมเคยคิดว่า เอาวะพลังขนาดนี้ มันก็น่าจะกำราบรถตาโต 1.6 เกียร์ธรรมดาได้บ้าง แตปรากฏว่า No Chance for that much of guts จ้ะ คือด้วยความที่เกียร์ธรรมดามันทดได้ต่อเนื่องกว่าและจัดกว่า ขับท่าไหนก็ขึ้น Si ได้ครับ ยกเว้นว่าเอาไปเจอกันช่วงที่เกียร์ธรรมดามันสุดเกียร์แล้ว Si ยังลากได้อยู่ แบบนั้นก็จะมีโอกาสยันอยู่หน่อยนึง เอาเป็นว่ามันไม่ใช่ตัวแสบขนาดนั้น แต่ก็ทำให้คนชอบเกียร์ออโต้ มีของขับสนุกขึ้นกว่าปกติบ้าง

ภายนอกของรุ่น Si จะมีจุดแตกต่างคือ หนึ่ง สีภายนอกสีเทาแคนยอนสโตน ซึ่งรุ่นย่อยอื่นๆไม่มีให้เลือก และสอง คือล้ออัลลอย 7 ก้านขนาด 14 นิ้ว ขนาดล้อและยางไม่ได้ต่างกับรุ่น 1.6 ทั่วไปครับ ต่างแค่ดีไซน์ จุดต่อมาภายนอกที่ต่าง ก็คือป้ายรุ่น 1.8 Si ทางด้านขวานั่นเอง ส่วนภายในนั้น สิ่งที่เพิ่มมาก็คือพวงมาลัย หัวเกียร์ และเบาะ หุ้มด้วยหนัง สีเทาเข้ม อันนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเขาครับ รุ่นคูเป้รู้สึกจะมีเบาะหนัง แต่ถ้าซีดาน ต้อง Si เท่านั้นถึงจะได้ภายในหุ้มหนัง พวงมาลัยมีถุงลมในรุ่น 1.6 VTi-AS ตัวท้อป ก็จะไม่ได้หุ้มหนังครับ

ในเรื่องการขับ ผมจำฟีลลิ่งช่วงล่างแบบละเอียดไม่ได้ เพราะคันสุดท้ายที่สภาพเดิมที่ขับ ก็คือราว 16-17 ปีที่แล้วครับ แต่โดยรวม ความที่ใช้ช่วงล่างปีกนกสองชั้นทั้งสี่ล้อ (ตาโต เป็น Civic รุ่นสุดท้ายที่ได้ช่วงล่างเทคโนโลยีสืบทอด ประยุกต์ ดัดแปลง จาก F1) ช่วงล่างเดิมเวลาซัดหนักๆจะยวบยาบโคลงเคลงเป็นบ้า แต่พื้นฐานช่วงล่างมันมาดีมาก ควบคุมมุมล้อให้หน้ายางสัมผัสถนนได้ดีเยี่ยม ต่อให้ยวบ แต่ก็เกาะโค้งดี ลำพังแค่ยัดโช้ค Monroe สักชุดก็เป็นรถบ้านที่แซ่บในโค้งได้ดีแล้วครับ

เครื่องยนต์ B18B ป่านนี้อาจจะถูกยกออกกันไปหมดแล้ว แต่ข้อดีของมันจริงๆก็คือ ในสมัยนั้น ที่อะไหล่เครื่อง B-Series VTEC ยังเหลือเฟือ เราเอาฝา B16A VTEC มาแปลงใส่ได้ครับ ทำนองเดียวกับที่อู่ Honda บ้านเรายุค 2000s ทำ B16A โปะท่อนล่าง B20 นั่นเอง แต่แรงบิดที่ได้จะไม่กระชากคอเคล็ดแบบ B20+B16 นะครับ แต่ทำวิธีนี้ ไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนเครื่องเลย เกียร์ออโต้ ถ้าทดไม่จัดพอ เอาเกียร์พวก B18C หรือ B16A ลงได้นะ แล้วรอบจะจัดขึ้น แต่ส่วนมากจะโดนสลับใส่เกียร์ธรรมดากันเสียมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ความที่รถ 1.8 Si นี้มีจำนวนการผลิตออกมาแค่ 1,000 คัน (เท่าที่ทราบ ผมไม่อาจคอนเฟิร์ม) ทำให้ปัจจุบันเป็นรถหายากคันนึง ถ้าเจอ ภายในก็มักจะถูกสลับเปลี่ยนเอาของ SiR, Vi-RS หรือ Orthia ใส่หมดแล้ว แต่ถ้าใครเจอรถ Si สภาพเดิม เบาะหนังอาจจะเก่าขาดวิ่นหน่อย เอามาหุ้มใหม่ บูรณะทั้งคัน ก็อาจได้รถ 90s ที่ราคาไม่แรงนัก และมีความ Rare เป็นรถหายาก แม้ว่าคนส่วนใหญ่บนท้องถนนอาจไม่รับรู้เรื่องนี้ก็ตาม

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง