OMODA C5 EV เปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยใหม่ เพิ่มกำลังให้แรงขึ้น
OMODA C5 EV เปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยใหม่ เพิ่มกำลังให้แรงขึ้น

OMODA C5 EV เปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยใหม่ เพิ่มกำลังให้แรงขึ้น 

โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) หรือ OMODA & JAECOO (Thailand) ภายใต้ Chery Automobile ประกาศปรับราคาจำหน่าย OMODA C5 EV ใหม่ พร้อมปรับเปลี่ยนชื่อรุ่นย่อยใหม่ จาก จาก Plus เปลี่ยนเป็น Dynamic และรุ่น Ultimate เปลี่ยนมาใช้ชื่อรุ่นว่า Max พร้อมปรับราคาใหม่ 

- OMODA C5 EV Long range Dynamic ราคา 649,000 บาท
- OMODA C5 EV Long range Max ราคา 699,000 บาท

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้

- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 8 ปี หรือ 200,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ High-Voltage นาน 8 ปี หรือ 200,000 กม.
- รับประกันระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน นาน 8 ปี หรือ 200,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี ประกันชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี Home Charger พร้อมติดตั้ง (เฉพาะรุ่น Max)
- ฟรี สาย V2L

OMODA C5 EV นั้นจะเป็น 1 จาก 3 รุ่น ของทาง OMODA & JAECOO  (Thailand) ที่จัดจำหน่ายในตลาดเมืองไทย ส่วนอีก 3 รุ่นนั้นก็จะเป็น JAECOO 6 EV รถไฟฟ้า100% หรืออีกชื่อก็คือ i-CAR03, และ JAECOO 7 SHS 

สำหรับ OMODA C5 EV จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาในรูปแบบเอสยูวี ในด้านงานออกแบบจะมาพร้อมสไตล์การออกแบบเทคโนโลยีแห่งอนาคตอันเป็นเอกลักษณ์ โดยใช้ภาษาการออกแบบ “LIGHT OF MOVEMENT”

ด้านหน้าจะมาพร้อมชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนเป็นไฟ DRL ขนาบข้างอยู่ระหว่างชื่อแบรนด์ O M O D A แบบเรืองแสง ขณะที่ด้านล่างเป็นชุดไฟส่องสว่าง ที่อยู่ในกรอบทรงหัวลูกศรขนาดใหญ่ ด้านข้างตัวรถออกแบบด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย เพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หลังคาด้านท้ายดีไซน์ให้มีความลาดเทในสไตล์รถคูเป้ มาพร้อมชุดไฟท้าย LED X-STYLE ในด้านขนาดมิติตัวถังมีความยาว 4,400 มม. กว้าง 1,830 มม. สูง 1,588 มม. ระยะฐานล้อ 2,630 มม.

ภายในห้องโดยสารจะโดดเด่นด้วยหน้าจอดิจิทัลโค้งขนาดใหญ่ 24.6 นิ้ว ที่รวมเอาทั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ และหน้าจออินโฟนเทมเมนต์เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ รองรับการเชื่อต่อทั้ง Apple CarPlay กับ Android Auto ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm 8155 มาพร้อมระบบ AI เป็นผู้ช่วยผู้ขับขี่

บริเวณคอนโซลกลางแบบลอยตัววางในตำแหน่งค่อนข้างสูงคั่นระหว่างคนขับกับผู้โดยสารชัดเจน เบาะคู่หน้าเป็นแบบสปอร์ตมาพร้อมระบบระบายอากาศ

ด้านชุดอุปกรณ์ภายใน เบาะที่นั่งมาพร้อมระบบระบายอากาศ Ventilate Seats (มีให้เฉพาะในรุ่น Long range Max), ชุดไฟ Ambient Light, แท่นชาร์จมือถือไร้สาย 50W, ปุ่ม Push Start, กุญแจรีโมท Keyless Entry ที่สามารถล็อก และปลดล็อกรถอัตโนมัติเพียงเดินเข้าใกล้หรือเดินออกจากรถในระยะไกล นอกจากนั้นในยังปรับเปลี่ยนที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ปรับระดับให้ต่ำลงได้

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ OMODA 5 EV ใหม่รุ่นปี 2025 ที่ปรับเปลี่ยนชื่อใหม่จะปรับพละกำลังให้แรงขึ้น โดยจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 211 แรงม้า (จากเดิมจะให้กำลัง  204 แรงม้า) แรงบิด 288 นิวตันเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง ECO, Normal และ Sport ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ในเวาบล 7.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กม./ ชม.  

จับคู่กับแบตเตอรี่ที่มีขนาดความจุ 61 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุดวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 505 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่จะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 28 นาที นอกจากนั้นยังมากับระบบ V2L (Vehicle-to-load) ขนาด 3.3 kW ที่ปล่อยกระแสไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกได้

ระบบความปลอดภัยจะมากับระบบ ADAS+DMS ที่มากกว่า 17 ฟังก์ชัน อาทิ ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบป้องกันรถออกนอกเลน, ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา, ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (มีให้เฉพาะในรุ่น Long range Max), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นต้น

OMODA 5 EV 2025 ที่เปิดวางจำหน่ายในตลาดเมืองไทยจะมีมั้แบบทูโทน และโมโนโทน โดยในรุ่น Long Range Dynamic จะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีขาว Lunar White, สีเทา Mercurial Grey, สีดำ Space Black

ส่วนในรุ่น Long Range Max จะมีให้เลือก 5 เฉดสีได้แก่ สีขาว-หลังคาดำ Lunar White – Black Roof, สีดำ Space Black, สีเทา Mercurial Grey, สีน้ำเงิน Midnight Blue และสีเขียวหลังคาดำ Mint Green – Black Roof

ขณะที่เฉดสีภายในจะมีให้เลือก 2 เฉดสี คือสีดำ และสีน้ำเงิน-ขาว

สำหรับราคาจำหน่ายใหม่ของ OMODA 5 EV จะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง