นโยบายภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569
นโยบายภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569

นโยบายภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569

HEV, PHEV และ Mild Hybrid คือระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่มีความแตกต่างกันที่ขนาดแบตเตอรี่และวิธีการชาร์จ:

HEV (Hybrid Electric Vehicle): รถไฮบริดทั่วไป ใช้ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกัน สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้ในระยะทางสั้น ๆ ที่ความเร็วต่ำ และไม่ต้องชาร์จจากภายนอก เพราะแบตเตอรี่จะถูกชาร์จจากการเบรกและการทำงานของเครื่องยนต์

PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle): รถปลั๊กอินไฮบริด มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า HEV สามารถชาร์จไฟจากแหล่งภายนอกได้ ทำให้ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางไกลขึ้น และประหยัดน้ำมันได้มากกว่า HEV

Mild Hybrid (MHEV): รถไฮบริดแบบอ่อน มอเตอร์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กและทำหน้าที่เพียง "เสริม" กำลังให้กับเครื่องยนต์ ไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะช่วงออกตัว และไม่ต้องชาร์จจากภายนอกเช่นกัน 

รถยนต์สันดาปภายใน (ICE)

  • รถหรู/รถสปอร์ต (เครื่องยนต์ > 3,000 ซีซี): อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 40% เป็น 50% ทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก (คาดว่า 2-3 ล้านบาท สำหรับรถหรูราคา 6 ล้านบาทขึ้นไป)

รถยนต์ไฟฟ้า (EV)

  • ได้รับผลดี:

    • รถยนต์ทั่วไป: ภาษีจะลดลงจาก 8% เหลือ 2%

    • รถกระบะ EV: ภาษีจะปรับจาก 0% เป็น 2%

รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

  • มีการแยกการคำนวณภาษีออกจาก HEV โดยใช้ "ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าต่อการชาร์จ" (Electric Range) เป็นเกณฑ์หลักแทนการใช้ CO2 และยกเลิกการพิจารณาขนาดถังน้ำมัน

    • วิ่งด้วยไฟฟ้า $\ge$ 80 กม./ชาร์จ: ภาษี 5%

    • วิ่งด้วยไฟฟ้า $<$ 80 กม./ชาร์จ: ภาษี 10%

  • ข้อกำหนดเพิ่มเติม: ต้องติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) อย่างน้อย 2 ระบบ และต้องใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2569

 

รถไฮบริด (HEV) และ Mild Hybrid (MHEV)

  • บอร์ด EV มีมติใช้มาตรการภาษีอัตราต่ำ คงที่ 7 ปี (2569 - 2575) เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน:

    • HEV และ MHEV ปล่อย CO2 ไม่เกิน 100 กรัม/กม.: ภาษีสรรพสามิต 6% (คงที่)

    • HEV และ MHEV ปล่อย CO2 101 – 120 กรัม/กม.: ภาษีสรรพสามิต 9% (คงที่)

  • มาตรการนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงจากมาตรการเดิมที่กำหนดให้ต้องทยอยปรับขึ้นภาษีทุกปีหลังปี 2569

โครงสร้างภาษีและกลไกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

  • ภาษีแบตเตอรี่: ปรับโครงสร้างเพื่อสนับสนุนแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ โดยกำหนดเกณฑ์ตามค่า Energy Density และ Lifecycle

  • ภาษีคาร์บอน: อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอ ครม. โดยจะเพิ่มกลไกราคาคาร์บอนในโครงสร้างภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน โดยมีอัตราที่ 200 บาทต่อตันคาร์บอนเทียบเท่า (คาดว่าไม่กระทบประชาชนโดยตรง)

  • รถยนต์โบราณนำเข้า: เตรียมจัดเก็บภาษีในอัตรา 45% และจำกัดการใช้งานบนท้องถนนเฉพาะวันหยุดเท่านั้น (คาดเริ่มใช้ปีงบประมาณ 2569)

ผลกระทบโดยรวม:

  • ส่งเสริม การผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ EV, PHEV (ที่วิ่งไฟฟ้าได้ไกล), HEV และ MHEV

  • กระตุ้น ตลาดรถหรู/ซูเปอร์คาร์ในช่วงปลายปี 2568 ก่อนที่ภาษีจะขึ้นสูงในปี 2569

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง