BYD หุ้นดิ่งแรง เป็นประวัติการณ์ท่ามกลางการลดราคา รถEv จีน
BYD หุ้นดิ่งแรง เป็นประวัติการณ์ท่ามกลางการลดราคา รถEv จีน

BYD หุ้นดิ่งแรง เป็นประวัติการณ์ท่ามกลางการลดราคา รถEv จีน

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา BYD ประกาศลดราคาจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจีนสูงสุดถึง 34% สำหรับรถยนต์ 22 รุ่น รวมถึง BYD Seagull ที่มีราคาลดลงเหลือเพียง 55,800 หยวน (ประมาณ 253,000 บาท) แม้ว่าการลดราคาในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ในระยะสั้น แต่ก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของอัตรากำไรและความยั่งยืนของกลยุทธ์นี้ในระยะยาว นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank ได้ระบุว่าการลดราคานี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสต็อกรถยนต์ของดีลเลอร์ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ราวๆ 150,000 คันในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2025 ทำให้จำเป็นต้องเร่งระบายรถออกนั่นเอง

การประกาศสงครามราคาครั้งใหม่ของ BYD ได้จุดชนวนให้เกิดสงครามราคาภายในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของจีน ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่นๆ จำเป็นต้องปรับลดราคาตามเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด สถานการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัทรถยนต์ต่างๆ และสร้างความไม่แน่นอนในตลาด โดยทางฝ่ายรัฐบาลจีนได้ออกมาเตือนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ควบคุมตนเองในการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากสงครามราคาที่รุนแรงอาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมโดยรวมในระยะยาว

แม้ว่า BYD จะรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมียอดขายรถยนต์ทั้งหมด 382,476 คัน เพิ่มขึ้นถึง 15.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ราคาหุ้นของบริษัทกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากความเชื่อของนักลงทุน ที่กังวลว่าอัตรากำไรจะถูกบีบอัดจากการลดราคาอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของยอดขายอาจไม่สามารถชดเชยผลกระทบต่อกำไรสุทธิได้ นอกจากนี้ BYD ยังบรรลุเป้าหมายยอดขายเพียง 32% ของเป้าหมาย 5.5 ล้านคันสำหรับปี 2025 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า BYD อาจไม่สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าที่วางเอาไว้

บริษัท Shandong Qiancheng Holdings หนึ่งในตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกของประเทศจีน เครือข่ายดีลเลอร์หลักของ BYD ในมณฑลซานตง กำลังประสบวิกฤตด้านการดำเนินงานอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นต้นมา และมีดีลเลอร์หลายแห่งได้ปิดตัวลง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกว่า 1,000 รายที่ยังไม่ได้รับบริการหลังการขาย เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับความมั่นคงของเครือข่ายการจัดจำหน่ายของ BYD สมาคมผู้ค้ารถยนต์จีนได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์หยุดการส่งมอบรถยนต์จำนวนมากเกินไปให้กับดีลเลอร์ เนื่องจากสงครามราคาที่รุนแรงกำลังทำลายเสถียรภาพทางการเงินของดีลเลอร์ จากกำไรสุทธิที่ต่ำลงเนื่องจากการปรับลดราคาขายอย่างต่อเนื่อง

มีรายงานว่า BYD มีหนี้สินรวมสูงถึง 323 พันล้านหยวน (ประมาณ 1,466 พันล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่ทางบริษัทออกรายงานอย่างเป็นทางการถึง 12 เท่า ความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินที่สูงและสภาพคล่องของบริษัทอาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงนั่นเอง

ด้วยพอร์ตลงทุนที่ปรับให้เหมาะสำหรับหุ้นดาวน์โจนส์, หุ้น S&P, หุ้นเทคฯ และหุ้นขนาดกลาง (Mid Cap) ต่าง ๆ ดังนั้นคุณจึงสามารถสำรวจกลยุทธ์ที่สร้างความมั่งคั่งต่าง ๆ ได้

ดังนั้นหากหุ้น 1211 อยู่ในวอทช์ลิสต์ของคุณ ก็อาจจะฉลาดมากที่จะรู้ว่าหุ้นตัวนี้อยู่ในรายการของ ProPicks หรือไม่

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง