เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Land Rover Defender OCTA Black แต่งดำรอบคัน กับขุมพลังที่มากถึง 635 แรงม้า
เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Land Rover Defender OCTA Black แต่งดำรอบคัน กับขุมพลังที่มากถึง 635 แรงม้า

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Land Rover Defender OCTA Black แต่งดำรอบคัน กับขุมพลังที่มากถึง 635 แรงม้า

 Land Rover เปิดตัว Defender OCTA รุ่นสมรรถนะสูงเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา มาในปีนี้ทางแบรนด์รถจสากเกาะอังกฤษ เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับไลน์อัปนี้ ด้วยรุ่นพิเศษ Defender OCTA Black ที่เสริมความโหดด้วยดีไซนสีดำด้าน และสีดำเงา รอบคัน ทั้งภายนอก และห้องโดยสาร มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid ขุมพลัง V8 เทอร์โบคู่ 635 แรงม้า  

Land Rover Defender Octa Black เริ่มจากภายนอกตัวรถมาในเฉดสีดำ Narvik Black ซึ่งเป็นสีดำที่เข้มที่สุดของทาง Defender โดยในรุ่นมาตรฐายนนั้นจะมีพื้นผิวที่เป็นแบบเงา แต่ทางลูกค้าสามารถติดตั้งฟิล์มป้องกันด้านให้กับตัวรถได้ เพื่อสร้างความดุกดันให้กับตัวรถมากยิ่งขึ้น

 Defender OCTA Black ยังถูกตกแต่ง ให้มีความดุดันแบบเต็มพิกัด กระจังหน้าสีดำ และตราสัญลักษณ์ “Defender” แบบวงรี จะมาในแบบสีเงินเข้ม ขนาบข้างด้วยชุดด้วยชุดไฟหน้าใหม่ พร้อมกราฟิกสัญลักษณ์ที่คมชัดยิ่งขึ้น  อีกทั้งในส่วนแผ่นกันกระแทกหน้า และหลังที่เคลือบด้วยสีดำ Satin Black มาพร้อมหุห่วงลากสีดำแบบด้าน ด้านหลังมากับไฟท้ายแบบเรียบ Flush พร้อมเลนส์สี Smoke พร้อมติดตั้งปลายท่อไอเสีย 4 ท่อที่เคลือบด้วยสีดำเงา Gloss Black ล้อ Forged มีให้เลือกทั้งขนาด 20 หรือ 22 นิ้ว มาพร้อมฝาครอบดุมล้อสีดำ และสัญลักษณ์ Defender สี Shadow Atlas ส่วนที่ด้านในติตดั้งคาลิเปอร์เบรกสีดำเงส มาพร้อมตัวอักษรสีเงิน Sentient Silver อยู่ด้านข้าง

ภายในห้องโดยสารของ Defender OCTA Black ก็มาในธีมสีดำเฉดเช่นเดียวกันตัวรถภายนอก โดยมาในธีม “Tough Luxury” ที่ตกแต่งด้วยวัสดุหนังแบบ Semi-Aniline สี Ebony ผสมผ้ารุ่นพรีเมียมจาก Kvadrat™ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทาง Defender โดยจะให้สัมผัสนุ่มหรูหรา 

เบาะนั่งมาในแบบ Performance Seats มาพร้อมลวดลายเจาะรูพิเศษ และลายเย็บใหม่ พร้อมฝาหลังเบาะ และบานพับที่พักแขนสีเทา Carpathian Grey มาพร้อมฟีเจอร์ “Body and Soul Seats” ที่ออกแบบมาให้ส่งคลื่นเสียงผ่านเบาะนั่ง เพิ่มประสบการณ์การฟังเพลง และช่วยผ่อนคลายให้ผู้โดยสาร ด้านระบบเครื่องเสียงเป้นของ Meridian™ 700W พร้อมลำโพง 15 ตำแหน่ง 

ในส่วนของแผงแดชบอร์ดตกแต่งด้วยสี Satin Black Powder Coat อีกทั้งยังตกแต่งด้วยวัสดุ Chopped Carbon Fibre ขณะที่ในส่วนหน้าจออินโฟนเทนมเนต์จะมีขนาด 13.1 นิ้ว 

ด้านพละกำลังขับเคลื่อนยังคงเป็นรถเอสยูวีที่ทั้งแรง และเร็วที่สุดเท่าที่เคยนมีมาของทางแบรนยดืด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตรเทอร์โบคู่ มาพร้อมระบบ Mild-Hybrid (MHEV) ที่ให้กำลังมากถึง 635 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 250 กม./ชม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ OCTA Mode ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการขับแบบออฟโรด

ที่มา Carscoops

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง