
Ford Ranger Super Duty กระบะพันธุ์แกร่งเพื่อการใช้งานหนักโดยเฉพาะ!!
จุดเด่นที่สำคัญ:
เครื่องยนต์และสมรรถนะ:
- เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร
- กำลังสูงสุด 207 แรงม้า, แรงบิด 600 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time
- ผ่านมาตรฐานมลพิษใหม่ที่เข้มงวด
- ความสามารถในการบรรทุกและลากจูง:
- สร้างบนแชสซีส์ที่เสริมความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ
- รับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 1,982 กิโลกรัม
- ลากจูงได้ถึง 4,500 กิโลกรัม (เทียบเท่า Ford F-150)
- ดีไซน์และการออกแบบ:
- รูปลักษณ์แข็งแกร่งบึกบึนกว่ารุ่นปกติ ด้วยกระจังหน้า, ฝากระโปรง และกันชนหน้าดีไซน์ใหม่
- มาพร้อมท่อสน็อกเกิลและยาง All-Terrain ขนาด 33 นิ้ว เป็นมาตรฐาน
- รุ่นและราคา:
- Single Cab (ตอนเดียว): เริ่มต้น 82,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.66 ล้านบาท)
- Double Cab (สี่ประตู): เริ่มต้น 89,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)
- จะเริ่มวางจำหน่ายในออสเตรเลียช่วงปลายปี 2026
- ชุดแต่งเสริม (Accessory Packs):
มีให้เลือก 3 รูปแบบหลักสำหรับสายงานที่แตกต่างกัน:
1. Work Pack (สำหรับไซต์งาน): ราคาเริ่มต้นประมาณ 230,000 บาท
2. Farm Pack (สำหรับงานเกษตร): เพิ่มกันชน ARB Summit ราคาเริ่มต้นประมาณ 320,000 บาท
3. Adventure Pack (สำหรับสายออฟโรด): จัดเต็มด้วยวินซ์ Warn และกันกระแทก ARB ราคาเริ่มต้นประมาณ 440,000 บาท
สรุปโดยรวม: Ford Ranger Super Duty คือรถกระบะที่เกิดมาเพื่อ "ทำงาน" อย่างแท้จริง เน้นความแข็งแกร่ง ทนทาน และความสามารถในการบรรทุกและลากจูงที่เหนือกว่า Ranger รุ่นปกติอย่างชัดเจน แม้ราคาเมื่อรวมชุดแต่งครบชุดอาจสูงกว่า Ranger Raptor แต่ก็ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานมืออาชีพที่ต้องการสมรรถนะขั้นสุดสำหรับการใช้งานในทุกสถานการณ์ที่สมบุกสมบัน