
BMW X5 รุ่นใหม่ จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายมากถึง 5 แบบ ได้แก่:
มอเตอร์ไฟฟ้า (EV)
เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
เครื่องยนต์เบนซิน/ดีเซลเพียวๆ พร้อม Mild Hybrid 48V
เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV)
BMW มองว่า ไฮโดรเจน มีบทบาทสำคัญในการ ลดคาร์บอนทั่วโลก และเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อมาเติมเต็มช่องว่างที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบชาร์จแบตเตอรี่อาจยังไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป
BMW iX5 Hydrogen รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตเป็นชุด จะเข้าสู่ตลาดในปี 2028 (หลังจากการทดสอบรถยนต์ต้นแบบสำเร็จ) โดยใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงเจเนอเรชั่นที่สามที่พัฒนาร่วมกับ Toyota
BMW ยืนยันว่า ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มระบบส่งกำลัง (ICE, PHEV, EV, FCEV) เป็นปัจจัยความสำเร็จเชิงกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการของตลาดโลก
โรงงานของ BMW มีโครงสร้างการผลิตที่ ยืดหยุ่น และความเชี่ยวชาญในการบูรณาการสูง ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนไปใช้งานร่วมกับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการ HyMoS (Hydrogen Mobility at Scale) จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนและขยายเครือข่ายการเติมไฮโดรเจนและระบบนิเวศการสัญจร
เป้าหมายคือการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของไฮโดรเจน โดยการ รวบรวมความต้องการใช้ยานพาหนะทุกประเภท (รถบรรทุก, รถโดยสาร, รถยนต์นั่งส่วนบุคคล) เพื่อให้เกิดการกระจายและการใช้งานสถานีบริการไฮโดรเจนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โครงการนำร่องจะเริ่มต้นในประเทศ เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ก่อนขยายไปยังเมืองใหญ่อื่นๆ และประเทศอื่นๆ ในอนาคต