
จีนเตรียมออกกฎใหม่ บังคับให้รถยนต์ PHEV บังคับวิ่งไฟฟ้าล้วนขั้นต่ำ 100 กม. เริ่มปี 2026
ทางการจีนกำหนดกฎระเบียบใหม่สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) โดยบังคับให้รถยนต์ประเภทนี้ต้องสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน (EV mode) ได้เป็นระยะทางอย่างน้อย 100 กิโลเมตร จึงจะมีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026 เป็นต้นไป
นอกจากการเพิ่มระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าแล้ว กฎใหม่ยังรวมถึงการกำหนดเกณฑ์การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เข้มงวดขึ้นเมื่อรถทำงานในโหมดไฮบริด
เหตุผลเบื้องหลังกฎระเบียบใหม่
รัฐบาลจีนมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแท้จริง และลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและมลพิษ ทางการมองว่าที่ผ่านมามีรถยนต์ PHEV และ EREV (Extended-Range EV) บางรุ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาโดยเน้นแค่การให้ได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์ทางภาษี (ป้ายทะเบียนสีเขียว) แต่มีระยะวิ่งไฟฟ้าที่สั้นมากและสิ้นเปลืองน้ำมันสูงเมื่อใช้เครื่องยนต์ ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของนโยบาย
ผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์
แบรนด์จีน (เช่น BYD, Geely): ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากรถยนต์ PHEV รุ่นยอดนิยมส่วนใหญ่ของค่ายรถจีนสามารถทำระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าเกิน 100 กม. ได้อยู่แล้ว และสามารถปรับปรุงรุ่นที่ยังไม่ผ่านมาตรฐานได้ไม่ยาก กฎใหม่นี้จึงเป็นเหมือนการกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น
แบรนด์ตะวันตกและยุโรป: เผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ รถยนต์ PHEV ของค่ายตะวันตกหลายรุ่นที่จำหน่ายในจีนไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตลาดจีนโดยเฉพาะ การปรับปรุงทางวิศวกรรมเพื่อให้ผ่านมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านระยะทางและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งเวลาและต้นทุนสูง ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด อาจทำให้รถ PHEV บางรุ่นถูกถอดออกจากตลาดจีน และอาจเร่งให้บางแบรนด์ตัดสินใจถอนตัวออกจากตลาดจีนเร็วขึ้น
ผลดีต่อตลาดโลก
แม้กฎระเบียบนี้จะบังคับใช้ในจีน แต่คาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากจีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การที่ผู้ผลิตต้องยกระดับเทคโนโลยี PHEV ของตนเองเพื่อให้ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดของจีน จะทำให้เทคโนโลยีและสเปกที่ดีขึ้นเหล่านี้ถูกนำไปใช้กับรถยนต์รุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศด้วย ส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วโลกมีโอกาสได้ใช้รถยนต์ PHEV ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านระยะการวิ่งด้วยไฟฟ้าและการประหยัดน้ำมัน
Source: InsideEVs