Nissan (นิสสัน) ในประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวรถตู้รุ่นพิเศษ Nissan Caravan 50th Anniversary Edition (นิสสัน คาราวาน) เพื่อฉลองครบรอบ Nissan Caravan อายุครบ 50 ปี หลังจากเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 1973 ซึ่งรถตู้รุ่นนี้ในเวอร์ชั่นส่งออก จะใช้ชื่อว่า Nissan Urvan (นิสสัน เออร์แวน)

Nissan Caravan นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1973 มาจนถึงปัจจุบันมีด้วยกัน 6 เจเนอเรชั่น โดยในรุ่นล่าสุดใช้ชื่อว่า Nissan NV350 Caravan (ตอนหลังจึงตัดชื่อ NV350 ออกไป) เปิดตัวเมื่อปี 2011 ซึ่งยังคงขายมาถึงปัจจุบัน ในรหัส E26 โดยที่ผ่านมา 12 ปี มีการปรับโฉมใหญ่ 2 ครั้ง คือในปี 2017 และ 2021 

ส่วน Nissan Caravan 50th Anniversary Edition เป็นการนำรุ่นย่อย Grand Premium GX มาตกแต่งด้วยชิ้นส่วนใหม่ อาทิ กระจังหน้าสีดำ, มือจับประตูสีดำ, กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า, รางเลื่อนประตูสีดำ คิ้วสีดำฝาท้ายเหนือป้ายทะเบียน พร้อมสัญลักษณ์ 50th Anniversary ไว้ที่ด้านล่างรางเลื่อนประตู และที่ฝาท้าย 

มิติตัวรถยาว 4,685 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,990 มม. และระยะฐานล้อ 2,555 มม. 

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้เบาะนั่ง 2 แถว โดยเบาะคู่หน้าเป็นเบาะแยกพร้อมที่วางเท้าแขน หุ้มหนังสีน้ำตาลตัดเย็บสลับกับผ้าเทา- ดำ 

เบาะนั่งหุ้มหนังสีน้ำตาลตัดเย็บสลับกับวัสดุผ้าลายเทา- ดำ แผงประตูตกแต่งด้วยผ้าลายเทา- ดำ พร้อมปักโลโก้ไว้บนพนักพิงศรีษะของตัวเบาะนั่งคู่หน้า และตกแต่งภายในโทนสีดำ และมีติดโลโก้สัญลักษณ์รุ่นพิเศษ 50th Anniversary ที่ฐานเกียร์

ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมระบบ Nissan Intelligent Mobility ที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงมาพร้อมกับกล้องมองภาพรอบคัน

สำหรับขุมพลังมีให้เลือกด้วยกัน 2 รูปแบบ นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซินรหัส QR20DE ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 130 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 178 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7M-ATx บนระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4N16 ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Turbo ให้กำลังสูงสุด 132 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด 7M-ATx บนระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ 

Nissan Caravan 50th Anniversary Edition มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีใหม่สีเบจ Cashmere Greige, สีขาว Pure White Pearl, สีเทา Stealth Grey และสีดำ Midnight Black

ส่วนราคาจำหน่าย ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2WD ราคา 3,483,700 เยน หรือประมาณ 842,000 บาท, รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2WD ราคา 4,151,400 เยน หรือประมาณ 1,003,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4WD ราคา 4,453,900 เยน หรือประมาณ 1,076,000 บาท 

โดยทุกรุ่นพิเศษทุกรุ่นย่อย เริ่มขายตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2023 ไปจนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2024 เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น