
จุดจบสายปาด!ขับเฉี่ยวชนหวังตบทรัพย์ เจอคนจริง ชักปืนยิงสวนดับ
(6 เม.ย.68) ที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.เดชา รองสารวัตรสอบสวน ได้ควบคุมตัวชายวัย 37 ปี ชาว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหา “ฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่น” ไปฝากขัง หลังตกเป็นผู้ก่อเหตุยิงชายวัย 41 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เสียชีวิต เหตุเกิดคืนวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา
ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขัง ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงสาเหตุของเหตุการณ์ เจ้าตัวตอบสั้น ๆ ว่า ยิงผู้ตายเพราะอีกฝ่ายตั้งใจจะขับรถเฉี่ยวชน และทำร้ายตน จึงตัดสินใจใช้ปืนยิง
คดีนี้เริ่มจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ว่ามีชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ริมถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล โดยมีเพื่อนผู้เสียชีวิตเป็นคนนำส่งโรงพยาบาล
จากการสอบสวนทราบว่า ในคืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 23.50 น. ผู้เสียชีวิตนั่งรถมากับเพื่อนในรถกระบะสีขาว มาตามถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ จนถึง กม.ที่ 53 บริเวณทางขึ้นต่างระดับบางปะอิน ได้ขับปาดหน้ากับรถกระบะสีดำเทา ซึ่งมีผู้ต้องหาเป็นคนขับ
ทั้งสองฝ่ายจอดรถแล้วมีปากเสียงกัน ผู้เสียชีวิตลงจากรถไปพูดคุยกับผู้ต้องหา ส่วนเพื่อนผู้ตายนั้นยืนอยู่ข้างรถ ระหว่างนั้นผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงผู้เสียชีวิต 2 นัดจนล้มลง แล้วหันปืนมาทางเพื่อนผู้เสียชีวิต ทำให้ต้องวิ่งหนีไปซ่อนตัวในป่า จากนั้นผู้ต้องหาขับรถหลบหนี เพื่อนผู้เสียชีวิตจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในช่วงเช้าวันที่ 5 เม.ย.
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาที่บ้านพัก พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน กระสุน เสื้อผ้า และรถกระบะคันก่อเหตุ ซึ่งพบรอยเฉี่ยวชนที่ล้อหลังซ้าย มีสีขาวติดอยู่ ตรวจสอบพบว่าตรงกับสีรถของผู้เสียชีวิตที่มีร่องรอยเฉี่ยวชนหลายจุด
พ.ต.อ.สมเจษฐ์ ผกก.สภ.วังน้อย ระบุว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา อ้างว่าเหตุเกิดจากอีกฝ่ายขับรถปาดหน้าหวังให้เกิดอุบัติเหตุเพื่อเรียกค่าเสียหายและข่มขู่เอาเงิน ตนจึงยิงเพื่อป้องกันตัว ทั้งนี้ตำรวจจะสอบสวนเพื่อนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม และตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตเคยถูกตำรวจทางหลวงจับกุมเมื่อปี 2564 ในข้อหาขับรถเฉี่ยวชนโดยเจตนา แล้วข่มขู่เรียกรับเงินจากคู่กรณี โดยมีพฤติกรรมตระเวนก่อเหตุในช่วงเวลากลางคืน เลือกเป้าหมายเป็นรถยนต์เก่าที่ไม่มีประกันภัย