สรุปกรณีดราม่าอู่ซ่อมรถหรูของคู่รักอินฟลูเอนเซอร์
ฝั่งคู่รักอินฟลูเอนเซอร์ (ผู้เสียหาย)
นำรถหรูที่ถูกคนเมาแล้วขับชนเข้าซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี
ปัญหาที่พบ:
ค่าใช้จ่าย: อู่เรียกเก็บค่าอะไหล่ 1.3 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ประกันเพิ่งอนุมัติวงเงิน และไม่มีใบเสร็จให้ดู ทำให้สงสัยว่าอาจถูกย้อมแมวใช้อะไหล่ปลอม
สภาพรถหลังซ่อม: เมื่อรับรถกลับมา พบว่าหลังคารั่ว และล้อรถที่ใส่มาให้ก็ไม่ใช่ของเดิม
ปัญหาระหว่างซ่อม: พบปัญหาอื่นๆ เช่น ไปที่อู่แล้วไม่เจอรถ, ติดต่อเจ้าของอู่ไม่ได้, ของในรถถูกสลับ และการซ่อมล่าช้ากว่าที่ตกลงกันไว้
ฝั่งเจ้าของอู่ (ผู้ถูกกล่าวหา)
ยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบและรับประกันงานซ่อมทั้งหมด ขอเพียงให้ลูกค้าติดต่อกลับมา
ประเด็นเรื่องอะไหล่: ชี้แจงว่ารถรุ่นนี้เป็นรถนำเข้าที่ไม่มีสต็อกอะไหล่ในไทย จึงจำเป็นต้องใช้ "อะไหล่แท้ถอด" ซึ่งมีรับประกัน และได้นำรถไปให้ศูนย์บริการ 2 แห่งตรวจสอบแล้ว ซึ่งยืนยันว่าเป็นของแท้และรถพร้อมใช้งาน
กล่าวหาว่าปัญหาเกิดจากบริษัทประกัน:
อ้างว่าบริษัทประกันพยายามกดราคาค่าซ่อมให้ต่ำที่สุด โดยตอนแรกอนุมัติเพียง 8.5 แสนบาท จากที่อู่ประเมินไว้ 1.7 ล้านบาท
อู่ของตนเป็นอู่นอกเครือ จึงต้องต่อสู้เรื่องราคากับประกันเพื่อให้ลูกค้าได้เปลี่ยนอะไหล่ที่ดีที่สุด แทนที่จะซ่อมตามที่ประกันต้องการ
ยืนยันว่าตนทำเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้า และจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับเงินค่าซ่อมแม้แต่บาทเดียว
สรุปสั้นๆ: ปัญหาเกิดจากความไม่ไว้วางใจเรื่องค่าซ่อมและคุณภาพงานซ่อมของฝั่งลูกค้า ซึ่งพบปัญหาหลังคารั่วจริง ในขณะที่ฝั่งอู่ยืนยันในคุณภาพและชี้ว่าความล่าช้าและปัญหาเรื่องอะไหล่มีต้นตอมาจากการต่อรองกับบริษัทประกันที่ไม่ยอมอนุมัติค่าซ่อมตามที่ควรจะเป็นสำหรับรถนำเข้ารุ่นนี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มอสเจีย จัสมีโอ
