Nissan Teana Plus คู่แฝดดีไซน์หรูของ Altima เปิดตัวในจีน 

หลังมีภาพพร้อมข้อมูลบางส่วนของ Nissan Teana Plus ได้รับการเผยแพร่โดยภาครัฐของจีน Dongfeng Nissan ได้เปิดตัวภาพอย่างเป็นทางการชุดแรกตามมา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2025 เบื้องต้นมีแต่ภาพภายนอกเท่านั้น เผยให้เห็นดีไซน์ที่ได้กลิ่นอายมาจาก N6 และ N7 ขุมพลังไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่ โดยด้านหน้ายังคงเอกลักษณ์กระจังหน้า V-Motion รับกับโคมไฟ LED โคมสีเข้ม พร้อมแถบไฟ LED ด้านบนที่เชื่อมต่อหากัน

กระจังหน้าของ Nissan Teana Plus เป็นซี่แนวนอน พร้อมตกแต่งขอบด้านข้างด้วยแถบโลหะ 3 ชั้น กันชนหน้าขยายขนาดช่องดักลมให้ใหญ่ขึ้น ด้านข้างเพิ่มล้อลายใหม่ขนาด 17 และ 19 นิ้ว ส่วนด้านท้ายมีโคม LED ที่เชื่อมต่อกันกัน พร้อมกั้นกลางด้วยโลโก้แบรนด์ตัวสะกดสีแดง และเปล่งแสงได้ กันชนหลังปรับให้ดูสะอาดตา และไม่มีปลายท่อไอเสียปรากฎออกมา ปิดท้ายด้วยสีตัวถังที่มีแบบ two-tone ให้เลือกด้วย

มิติตัวถังมีข้อมูลว่ายาว 4,920 มิลลิเมตร หรือเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 14 มิลลิเมตร ส่วนมิติอื่นคงเดิมรวมถึงระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร ภาพห้องโดยสารของ Nissan Teana Plus ยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มลูกเล่นอัจฉริยะมาให้ ส่วนขุมพลังคงเดิมกับ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 243 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ล็อคพูลเล่ย์ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า

Nissan Teana Plus อาจมีขุมพลังให้เลือกอีกแบบ เนื่องจากปรากฎข้อมูลขุมพลัง กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ไว้ใช้ในรุ่นเริ่มต้น ตามแบบที่ใช้ยื่นขออนุญาตจากภาครัฐ โดยที่ไม่ได้ลงรายละเอียดใด ทั้งนี้ สเปคดังกล่าวใกล้เคียงกับ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 156 แรงม้า จึงน่าติดตามต่อว่าจะใช่เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน แต่ผ่านการปรับแต่งเพื่อลดทอนกำลังหรือไม่ ส่วนกำหนดการเปิดตัวที่ประเทศจีน จะมีขึ้นภายในไตรมาส 4 ของปีนี้

Nissan Teana Plus รุ่นปี 2026 เตรียมเปิดตัวในจีนช่วงไตรมาส 4 ปี 2025 โดยคาดว่าจะขายควบคู่ไปกับรุ่นปัจจุบันที่มีราคาอยู่ระหว่าง 179,800–239,800 หยวน (ประมาณ 9 แสน – 1.1 ล้านบาท) สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา Nissan Altima รุ่นปัจจุบันเปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 และเพิ่งปรับโฉมครั้งใหญ่ในปี 2022 แม้มีแนวโน้มว่าจะได้รับการปรับอีกครั้งเพื่อยืดอายุตลาด แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้ดีไซน์ใกล้เคียงกับ Teana Plus หรือจะคงแนวทางที่แตกต่างกันต่อไป

ที่มา Carscoops