BYD SEAL 05 DM-i รุ่นปี 2026 เปิดตัวที่จีน พร้อมสเปคสุดล้ำ
BYD SEAL 05 DM-i รุ่นปี 2026 เปิดตัวที่จีน พร้อมสเปคสุดล้ำ

BYD SEAL 05 DM-i รุ่นปี 2026 เปิดตัวที่จีน พร้อมสเปคสุดล้ำ

BYD ได้เปิดตัว SEAL 05 DM-i รุ่นปี 2026 ในประเทศจีน ซึ่งเป็นรถยนต์ซีดานขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่สร้างความฮือฮาด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพครั้งใหญ่และเปิดราคาจำหน่ายที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

  • ราคา: เปิดตัวในจีนที่ราคา 79,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 365,000 บาท (เป็นราคาจำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น)

  • ระยะทางวิ่ง:

    • ไฟฟ้าล้วน: วิ่งได้ไกลถึง 128 กิโลเมตร (มาตรฐาน CLTC) ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น

    • วิ่งรวม (น้ำมัน+ไฟฟ้า): เคลมระยะทางไกลสูงสุดถึง 2,000 กิโลเมตร

  • ข้อควรรู้: โมเดลนี้เป็นคนละรุ่นกับ BYD SEAL 5 DM-i ที่ประกอบและจำหน่ายในประเทศไทย

ขุมพลังและสมรรถนะ:

  • เทคโนโลยี: ใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริด DM เจเนอเรชั่นที่ 5 ของ BYD

  • เครื่องยนต์: เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลัง 99 แรงม้า แรงบิด 126 นิวตันเมตร

  • มอเตอร์ไฟฟ้า: ให้กำลัง 161 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร

  • อัตราเร่ง: 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที

  • แบตเตอรี่: อัปเกรดเป็น Blade Battery ความจุ 15.87 kWh (จากเดิมที่มีให้เลือก 7.68 kWh และ 15.9 kWh)

  • อัตราสิ้นเปลือง: ประมาณ 3.08 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

  • ฟีเจอร์เด่น: มีระบบ VTOL (Vehicle to Load) สามารถจ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอกได้ 3.3 kW

การออกแบบและมิติตัวถัง:

  • ดีไซน์: ยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์แบบ "Dragon Face" คล้ายกับ BYD SEAL รุ่นไฟฟ้า แต่มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ยกเลิกกระจังหน้าแบบแอคทีฟ

  • มิติตัวรถ:

    • ความยาว: 4,780 มม.

    • ความกว้าง: 1,837 มม.

    • ความสูง: 1,515 มม.

    • ระยะฐานล้อ: 2,718 มม.

  • ล้อ: อัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร:

  • จอแสดงผล:

    • หน้าจอคนขับแบบดิจิทัล ขนาด 8.8 นิ้ว

    • หน้าจอสัมผัสกลาง ขนาด 10.1 นิ้ว หมุนได้ พร้อมระบบ DiLink

  • การเปลี่ยนแปลง: ย้ายคันเกียร์จากแบบคริสตัลที่คอนโซลกลาง ไปเป็นคันเกียร์ไฟฟ้าที่หลังพวงมาลัย ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น

  • อุปกรณ์มาตรฐาน: เบาะคู่หน้าปรับมือ, ลำโพง 6 ตำแหน่ง, ระบบกุญแจ NFC, ระบบควบคุมรถผ่านสมาร์ตโฟน, ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และพื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 508 ลิตร

โดยสรุป BYD SEAL 05 DM-i รุ่นปี 2026 ที่เปิดตัวในจีนนี้ เป็นการชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยีไฮบริดที่สามารถวิ่งได้ไกลมากทั้งในโหมดไฟฟ้าและโหมดผสมผสาน ในราคาที่เข้าถึงง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ PHEV ได้เป็นอย่างดี

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง