เทสลา (Tesla) แจ้งไม่รับดูแลรถที่ซื้อมาจากเกรย์มาร์เก็ต
ประเด็น: เทสลา ประเทศไทย ได้ประกาศ ปฏิเสธ การให้บริการหลังการขายแก่รถยนต์ที่นำเข้าผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ (เกรย์มาร์เก็ต) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยยินดีให้บริการ
ผลกระทบ: ลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่ซื้อรถยนต์ Tesla ผ่านผู้นำเข้าอิสระ (คาดว่ามีหลายพันคัน) โดยเฉพาะรุ่นหายากอย่าง Model S, Model X หรือ Model Y พวงมาลัยขวา แสดงความไม่พอใจและรู้สึก "ถูกหักหลัง" แม้บางคนจะซื้อรถใหม่จากเทสลา ประเทศไทย เพิ่มเติมแล้วก็ตาม
คำแนะนำจากเทสลา: แนะนำให้ลูกค้าติดต่อผู้ที่นำเข้ารถยนต์เพื่อหาทางเลือกในการรับบริการแทน
การเติบโตของยอดขาย: เทสลาเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2566 และมียอดจดทะเบียนสะสมกว่า 1 หมื่นคัน โดยยอดขาย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค. 2568) เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ปัญหาศูนย์บริการ: ปัจจุบันมีศูนย์บริการเต็มรูปแบบ (Tesla Service Center) เพียงแห่งเดียวที่ถนนรามคำแหง ทำให้เกิดความหนาแน่นและลูกค้าต้องรอคิวนาน
แผนขยาย: เทสลาเตรียมเปิด Tesla Service Center แห่งใหม่เพิ่มเติมที่ ถนนพระราม 5 ในวันที่ 26 กันยายนนี้ เพื่อรองรับพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
ศูนย์บริการด่วน (Service Express): ยังคงมี 3 แห่งที่ถนนราชพฤกษ์ (นนทบุรี), แม่เหียะ (เชียงใหม่) และเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (ภูเก็ต) สำหรับงานบริการที่ไม่ซับซ้อน
รุ่นที่ทำตลาด: ปัจจุบันเน้น Tesla Model 3 และ Tesla Model Y (รุ่นเฟซลิฟต์) ที่นำเข้าจากโรงงานกิกะแฟคทอรี เซี่ยงไฮ้
เครือข่ายชาร์จ: เดินหน้าขยายสถานี Supercharger (ปัจจุบันมี 31 แห่ง) และ Destination Charger (กว่า 10 แห่ง) ทั่วประเทศ
ช่องทางจำหน่ายและทดลองขับ: มี Tesla Center รามคำแหง และ Tesla Experiance ที่สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวสต์เกต
การตัดสินใจปฏิเสธการให้บริการรถเกรย์มาร์เก็ตของเทสลาในขณะที่กำลังขยายศูนย์บริการใหม่นั้น แสดงให้เห็นถึงการจัดระเบียบการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานบริษัท (โดยผู้ผลิต) เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรบริการที่มีจำกัดให้แก่ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์จากช่องทางอย่างเป็นทางการโดยตรง แม้จะกระทบความรู้สึกของกลุ่มลูกค้าผู้ภักดีกลุ่มแรกในไทยก็ตาม
