สรุปอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ (เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2569)
สรุปอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ (เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2569)

สรุปอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ (เริ่มใช้ 1 ม.ค. 2569)

การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาลดลง และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปขนาดใหญ่มีราคาจำหน่ายสูงขึ้น

กลุ่มรถยนต์ที่คิดตามเกณฑ์การปล่อย CO2

ประเภทรถยนต์ การปล่อย CO2 (กรัม/กิโลเมตร) เครื่องยนต์ไม่เกิน 3.0 ลิตร เครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตร
ICE (สันดาปล้วน) ไม่เกิน 100 13% 50%
  เกิน 100 แต่ไม่เกิน 120 22%  
  เกิน 120 แต่ไม่เกิน 150 25%  
  เกิน 150 แต่ไม่เกิน 200 29%  
  เกิน 200 34%  
MHEV & HEV (ไมล์ไฮบริด & ไฮบริด) ไม่เกิน 100 6% 40%
  เกิน 100 แต่ไม่เกิน 120 9%  
  เกิน 120 แต่ไม่เกิน 150 14%  
  เกิน 150 แต่ไม่เกิน 200 19%  
  เกิน 200 24%  

ข้อสังเกต: รถยนต์ ICE และ MHEV/HEV ที่มีเครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตร จะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 50% และ 40% ตามลำดับ

 กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า

ประเภทรถยนต์ เกณฑ์ อัตราภาษีสรรพสามิต
BEV (ไฟฟ้าล้วน) ทั่วไป 2%
PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน $\ge 80$ กม./ชาร์จ และถังน้ำมัน $\le 45$ ลิตร 5%
  วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน $< 80$ กม./ชาร์จ หรือถังน้ำมัน $> 45$ ลิตร 10%
  หากใช้เครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตร 30%

หมายเหตุสำหรับ PHEV: ต้องมีระบบช่วยขับขี่ (ADAS) อย่างน้อย 2 ระบบ และใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตในไทยตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป

 จุดเน้นของการปรับโครงสร้างภาษี

  • สนับสนุน EV: ลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV เหลือเพียง 2% เพื่อลดราคาจำหน่าย

  • ควบคุมมลพิษ: ใช้การปล่อย CO2 เป็นเกณฑ์หลักในการคำนวณภาษีสำหรับรถยนต์ ICE และ MHEV/HEV

  • ส่งเสริม PHEV คุณภาพสูง: แยกเกณฑ์สำหรับ PHEV โดยให้สิทธิประโยชน์สำหรับรถที่วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลและมีถังน้ำมันขนาดเล็กกว่า

  • เพิ่มภาระรถยนต์เครื่องใหญ่: รถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่งที่มีความจุเครื่องยนต์เกิน 3.0 ลิตร จะถูกปรับเพิ่มอัตราภาษีอย่างมาก

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง