BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023
BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

หลังจากที่ BYD (บีวายดี) ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกเอาชนะค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง Tesla (เทสลา) เป็นครั้งแรกในไตรมาส 4 ของปี 2023 ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า BYD บริษัทแม่ เตรียมมอบเงินรางวัลมูลค่ารวมหลายพันล้านหยวนให้กับตัวแทนจำหน่ายในจีน เพื่อตอบแทนที่ช่วยสร้างยอดขายให้ทะลุเป้าได้ร่วมกัน

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

โดย BYD จะจ่ายเงินเป็นจำนวน 666 หยวน หรือประมาณ 3,275 บาท ต่อยอดขายรถยนต์ 1 คัน ให้กับตัวแทนจำหน่าย หากบรรลุตามเป้าหมายการขายในปี 2023 ได้ ซึ่งหมายเลข 666 ในประเทศจีนถือเป็นตัวเลขมงคล เนื่องจากออกเสียงว่า "ลู่" ในภาษาจีนกลาง หรือ "ลัก" ในภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งคล้ายกับคำว่า "เจ๋ง", "เยี่ยม" หรือ "มหัศจรรย์"

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

โดยรวมแล้ว BYD คาดว่าจะต้องจ่ายเงินสูงถึง 2 พันล้านหยวน เนื่องจากบริษัทสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถปลั๊กอินไฮบริดได้มากกว่า 3 ล้านคัน ในปี 2023

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

Yicai สื่อของจีน ได้รายงานถึงการจ่ายโบนัสดังกล่าวเป็นแห่งแรกเมื่อวันอังคาร 2 ม.ค. ขณะที่ทาง BYD ยังไม่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

โดย BYD รายงานกำไรสุทธิรวม 2.1 หมื่นล้านหยวนในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2023 โดยมียอดขายรถยนต์กว่า 2 ล้านคันและส่วนประกอบ เช่น แบตเตอรี่และอุปกรณ์สมาร์ทโฟน

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

ในปี 2023 สามารถขายรถยนต์ได้ 3 ล้านคันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 62% จากปี 2022 โดยในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 1.57 ล้านคัน ส่วน Tesla สามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ 1.81 ล้านคัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 38% จากปี 2022 

BYD รวยอื้อ! เตรียมแจกเงินกว่า 2 พันล้านหยวนให้ดีลเลอร์ หลังจากยอดขายทะลุเป้าในปี 2023

แต่ในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา BYD กลับเอาชนะ Tesla และขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งผู้ผลิต EV อันดับ 1 ของโลก โดยมียอดขายส่วนใหญ่อยู่ในจีน

แหล่งที่มาจาก
- Reuters

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง