เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่รัฐบาลหลายประเทศกระตุ้นแรงจูงใจให้คนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV กันมากขึ้น ดั่งเช่นประเทศเยอรมนี ก็ได้มีมาตรการจูงใจทางภาษีแก่ประชาชนในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม 2023 รัฐบาลของประเทศได้ตัดสินใจอย่างกะทันหันที่จะยุติโครงการจูงใจ หลังจากนั้นยอดขายรถ EV ก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2023 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในเดือนมกราคม 2024 ลดลงร้อยละ 54.9 ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดลดลงร้อยละ 19.6 ในเดือนแรกของปี 2024 ในทางกลับกัน ตลาดสำหรับรถยนต์ครื่องยนต์สันดาปภายในกลับเพิ่มขึ้นมากกว่า 9% โดนรถเบนซินเพิ่มขึ้น 9.1% และ +9.5% สำหรับรถดีเซล
แต่อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวเล็กน้อยของรถเครื่องยนต์สันดาป ไม่เพียงพอที่จะหนุนตลาดรถยนต์ซึ่งหดตัวร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2023 ซึ่ง Auto Business Insight กล่าวว่าการสิ้นสุดมาตรการจูงใจทางภาษีอย่างกะทันหัน ทำให้ยอดขายรถ EV ลดลงรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ยอดขายลดลง
ยอดขายที่เริ่มลดลงในเดือนธันวาคม กระตุ้นให้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Constantin Gall Managing Partner ของ EY สำหรับตลาดยุโรปตะวันตก แนะนำว่ามีปัญหาพื้นฐานที่ทำให้เกิดภาวะตกต่ำนี้
“เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ต้นทุนทางการเงินที่สูง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จำนวนมากนำไปสู่การไม่เต็มใจที่จะซื้อทั้งในส่วนของบุคคลและบริษัท” Gall บอกกับ Wall Street Journal ในขณะที่เขายอมรับว่าการขาดสิ่งจูงใจจะเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เขากล่าวเสริมว่า “โดยรวมแล้ว ปี 2024 น่าจะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามราคาในเยอรมนี ซึ่งบริษัทต่างๆ เช่น VW, Tesla และ BYD ของจีน ต่างประกาศลดราคารถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมนียังคงย่ำแย่ นักวิเคราะห์จึงคาดว่าการลดราคาจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2024 ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบริษัท EV ขนาดเล็กที่จะตั้งรับได้
สมาคมยานยนต์ของเยอรมนี หรือ VDA คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์นั่งทั่วโลกในปี 2024 จะเติบโต 2% แตะ 77.4 ล้านคัน เกือบเท่ากับระดับก่อนเกิดโรคระบาดที่ 78.8 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม สมาคมคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ของเยอรมนีจะหดตัว 1% ในปีเดียวกันโดยมียอดขายลดลงเหลือ 2.82 ล้านคัน ลดลง 25% จากระดับก่อนการเกิด Covid-19 ระบาด ตามรายงานของ Reuters โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะลดลงประมาณ 9% ในปีหน้า แม้ว่าการผลิตจะเพิ่มขึ้น 19% ก็ตาม
โชคดีที่เยอรมนียังคงเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก อาจช่วยให้ค่ายรถเดือดร้อนได้น้อยลงบ้างให้กับผู้ผลิตรถยนต์ได้บ้างท่ามกลางแนวโน้มที่ท้าทายของอุตสาหกรรม
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops
