กระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น จะให้เงินช่วยเหลือประมาณ 120,000 ล้านเยน (853 ล้านดอลลาร์) แก่ Toyota Motor (โตโยต้า มอเตอร์) เพื่อขยายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ญี่ปุ่นต้องรีบเร่งในการพัฒนา และเอาชนะประเทศจีนให้ได้

กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ของญี่ปุ่น ได้กำหนดให้แบตเตอรี่สำรองมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และได้รับเงิน 330,000 ล้านเยน ในงบประมาณเสริมปีงบประมาณ 2565 เพื่อสนับสนุนภาคส่วนนี้

ความช่วยเหลือทางการเงินสู่บริษัทญี่ปุ่น นำโดย Panasonic (พานาโซนิค) ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเพียงแค่ร้อยละ 7.3 ในกลุ่มแบตเตอรี่รถยนต์ทั้งโลกในเวลานี้ ขณะที่ซัพพลายเออร์จีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น CATL (ซีเอทีแอล) และ BYD (บีวายดี) ครองตลาดโลกมากกว่าครึ่ง ตามรายงานของ SNE Research ที่อ้างโดย Nikkei

อีกทั้งบริษัทคู่แข่งอย่าง Honda Motor (ฮอนด้า มอเตอร์) ยังได้รับเงินอุดหนุนถึง 160,000 ล้านเยน รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่อย่าง GS Yuasa ก็ได้รับเงินสำหรับแผนการลงทุนด้านแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน

โตโยต้า กล่าวว่าจะใช้เงินเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สำหรับรถ EV รุ่นต่อไปซึ่งใช้เทคโนโลยีลิเธียมเหล็กฟอสเฟตแบบสองขั้ว และมีศักยภาพในการใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าได้ไกลขึ้น 20% และมีราคาต่ำกว่าลิเธียมรุ่นปัจจุบันประมาณ 40% (ปัจจุบัน แบตเตอรี่ไอออนมีใช้อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota อย่าง Toyota bZ4X)

ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะนำแบตเตอรี่รุ่นต่อไปเข้าสู่การผลิตประมาณปี 2026 หรือ 2027 เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าที่สร้างขึ้นจะออกสู่ตลาดด้วยระยะทางที่โฆษณาไว้ประมาณ 965 กิโลเมตร เมื่อชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

นอกจากนี้ โตโยต้าจะใช้ส่วนหนึ่งของเงินอุดหนุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่แบบ Solid-State ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มระยะการขับขี่ของ EV ประมาณ 20% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แบบ LFP ซึ่งจะให้ระยะทางได้มากถึง 1,158 กม.) ของการเดินทางที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

ซึ่ง โตโยต้า ตั้งเป้าขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 1.5 ล้านคันในปี 2026 และ 3.5 ล้านคันในปี 2030 โดยมีแผนลงทุน 5 ล้านล้านเยน ในสาขาที่เกี่ยวข้องภายในปี 2573

แหล่งที่มาจาก 
- Nikkei