
ผู้ประกอบการตลาดรถยนต์มือสองทรุดต่อเนื่อง ราคาตกต่ำ หวั่นพิษทรัมป์ ส่งผลรุนแรง
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ได้จัดงานแถลงข่าว ในหัวข้อ "เจาะลึกธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว รวมพลังสาววิกฤติ เพื่อให้ข้อมูล" เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม และทิศทางของตลาดรถยนต์มือสองในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า โดยนายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า ธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
ทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันจำนวนรถยนต์ที่เข้าสู่ตลาดรถมือสองลดลงอย่างต่อเนื่อง จากในปี 2567 มีจำนวน 300,000 คัน แต่ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้พบว่า มีรถเข้าสู่ตลาดมืองสองเพียง 92,293 คัน ทำให้คาดว่ารถยนต์ที่จะเข้าสู่ตลาดมือสองในปีนี้นั้นจะลดลงถึง 28-30%
ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อของรถยนต์ใช้แล้ว ตลอดสามปี พบว่าลดลงอย่างต่อเนื่องและลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยในปี 2566 ยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 122,000 ล้านบาท ปี 2567 ยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 92,000 ล้านบาท หรือลดลง 25% ส่วนในปีนี้ (2568) มองว่าเป็นปีที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะลดลงเพิ่มเติม 10% ซึ่งใน 5 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่ามีการปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 83,000 ล้านบาท
แต่ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 ลดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละ 18,458 คัน หรือหดตัวลงกว่าร้อยละ 28 ด้านยอดขายรถยนต์ใช้แล้วในปี 2566 อยู่ที่ 406,000 คัน ลดลงในปี 2567 เหลือ 316,000 คัน และคาดว่าปี 2568 จะลดลงอีกเหลือ 285,000 คัน หรือลดลงร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงการถดถอยของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
สาเหตุหลักมาจากความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากปี 2566 ถึง 2567 กว่าร้อยละ 25 และในปี 2568 ยังลดลงต่อเนื่องอีกร้อยละ 10 สอดคล้องกับยอดขายที่ลดลง สาเหตุอื่นรวมถึงการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาดรถยนต์มือหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคารถยนต์ใช้แล้ว นายวิสุทธิ์ระบุว่า การแก้ปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการ รัฐบาล และสถาบันการเงิน เพื่อกำหนดทิศทางการฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ยั่งยืน
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งเคยเป็นผู้นำในภูมิภาค กำลังเผชิญภาวะชะลอตัว จึงต้องปรับโครงสร้างทั้งระบบเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยกระทรวงการคลังกำลังปรับปรุงโครงสร้างภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) ทั้งในรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ได้อัตราภาษีที่ต่ำลง สร้างความได้เปรียบในตลาด
สำหรับการฟื้นฟูตลาดรถยนต์ใช้แล้ว นายเผ่าภูมิเน้นว่า ความเชื่อมั่นเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการรับประกันคุณภาพรถผ่านการจัดเกรดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น มาตรการเหล่านี้คาดว่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ใช้แล้วให้กลับมาคึกคัก